Starbucks จับมือกับ Nestlé

Starbucks จับมือกับ Nestlé

10 พ.ค. 2018
.nesle {
font-family: 'Tahoma';
font-size: 17px;
}
Starbucks จับมือกับ Nestlé / โดย ลงทุนแมน
ถ้าเรานึกถึงกาแฟชงกินที่บ้าน
แบรนด์เนสกาแฟ คงเป็นอันดับแรกๆ
แต่ถ้าพูดถึงร้านกาแฟ คงต้องนึกถึง Starbucks
ตอนนี้ Starbucks กำลังจะบุกตลาดกาแฟบ้าน
แต่ให้ Nestlé มาบริหารจัดการ
นี่คือโลกธุรกิจ ที่มองข้ามการแข่งขัน มาเป็นการ Synergy
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Nestlé ได้ประกาศขอซื้อสิทธิการขายผลิตภัณฑ์กาแฟของ Starbucks ในช่องทางขายปลีก และการขายอาหารอื่นๆ ทั่วโลก เป็นมูลค่าสูงถึง 2.3 แสนล้านบาท
เพราะอะไร Nestlé ถึงทำดีลนี้กับ Starbucks ?
อย่างที่เราทราบกันดีว่า Nestlé มี Brand ชื่อดังอย่าง Nescafe และ Nespresso ซึ่งถือได้ว่าเป็น Global Brand อยู่แล้ว
แต่ในตลาดกาแฟเองเป็นตลาดที่มีความพิเศษคือ ในประเทศที่มีแบรนด์ท้องถิ่นที่ทำตลาดมานานแล้วการที่จะเข้าไปแย่งส่วนแบ่งตลาดเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก
ทีนี้เรามาลองดูสัดส่วนยอดขายของ Nestlé กันก่อน
ปี 2017 Nestlé มีรายได้ทั้งหมด 2.9 ล้านล้านบาท
แต่ถ้าเทียบกับสัดส่วนยอดขายของ กาแฟผง ชา และ ไมโล โซนอเมริกาทำได้เพียง 10% ของยอดขายซึ่งถือว่าน้อยมากเพราะในภูมิภาคอื่นอยู่ที่ 30% ของยอดขาย
แสดงว่า ยอดขายกาแฟและชาของบริษัท Nestlé ในโซนอเมริกากำลังมีปัญหา
ดีลที่เกิดขึ้นนี้จึงน่าจะตอบความต้องการของ Nestlé ได้อย่างดีเพราะว่า Starbucks เองมีชื่อเสียงที่ดีในสหรัฐอเมริกา
แล้ว Starbucks ได้ประโยชน์อะไรจากดีลนี้?
เมื่อปีที่แล้วยอดขายผลิตภัณฑ์กาแฟของ Starbucks ในช่องทางการขายปลีกและอาหาร มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 75,859 ล้านบาท
ถ้าเราดูจากสัดส่วนแล้ว จะมีสัดส่วนอยู่เพียง 10% ของรายได้ Starbucks เท่านั้น
แปลว่ากำไรหลักของ Starbucks จริงๆ ส่วนใหญ่แล้วมาจากร้านกาแฟ
ถ้า Starbucks จะลงมาโฟกัสในตลาดนี้เองก็ยังไม่มั่นใจว่าจะทำสำเร็จได้เพราะในส่วนนี้ไม่ได้เป็นส่วนหลักในธุรกิจมาก่อน
ประโยชน์ที่ได้ครั้งนี้ของ Starbucks จึงน่าจะเป็นประสบการณ์ และช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วโลกของ Nestlé
ส่วน Nestlé ได้ชื่อของ Starbucks เพื่อใช้ในการทำตลาดทั่วโลก รวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกา
ในโลกของธุรกิจ
ในบางครั้งก็ไม่ต้องแข่งกันเสมอไป
ก่อนหน้านี้ ใครๆ ก็คงมองว่าเนสกาแฟ ต้องเกลียด Starbucks แน่ๆ
แต่ที่ไหนได้ คู่แข่งกลับมาร่วมมือกัน
ทั้งนี้เพราะพวกเขามองข้ามช็อต
ร่วมมือกันในบางเรื่อง จะส่งผลดีมากกว่าแยกกันทำ
ซึ่งเราเรียกว่า Synergy
1+1 แล้วได้เป็น 3
ตอนนี้ถ้าเรามีสินค้าอะไรอยู่ ลองมองไปที่คู่แข่งรอบตัวเรา
บางทีเขาคนนั้นอาจจะมาร่วมมือกับเรา แล้วทำสินค้าให้ดีกว่าเดิมก็เป็นได้..
----------------------
เปิด pre-order หนังสือลงทุนแมน 3.0 พร้อมประทับตราลายลงทุนแมน  (มีจำนวนจำกัด) สั่งซื้อได้ที่เพจเฟซบุ๊ค ลงทุนแมน
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.