Swarovski คริสตัลเกิดจากอะไร

Swarovski คริสตัลเกิดจากอะไร

5 พ.ค. 2018
Swarovski คริสตัลเกิดจากอะไร / โดยลงทุนแมน
Swarovski เป็นบริษัทผลิตเครื่องประดับ
ที่ทำจากคริสตัลชั้นนำของโลก
แล้วคริสตัล กับแก้วต่างกันอย่างไร
อะไรเป็นเคล็ดลับที่ทำให้คริสตัลของ Swarovski มีประกายระยิบระยับมากกว่าแก้วธรรมดา
วันนี้ลงทุนแมนจะมาเล่าให้ฟัง
“แก้ว” เป็นส่วนประกอบสำคัญของอัญมณีหลายประเภท รวมถึง คริสตัล
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์กว่า 4,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช
ในยุคเมโสโปเตเมีย มีความเชื่อกันว่า ความบังเอิญทำให้มนุษย์รู้จักกับแก้ว
Pliny นักกฎหมายและนักประวัติศาสตร์สมัยโรมันค้นพบหลักฐานที่สำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ ใจความว่า
นักเดินเรือชาวฟีนีเซียได้ล่องเรือ และได้ขึ้นบกบริเวณชายหาดแถว Ptolemais หรือแถบประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน
พวกเขาได้ก่อไฟหุงอาหารบนพื้นที่ชายหาดทรายที่มีส่วนประกอบของแร่ธาตุต่างๆ (Natron) ปรากฏว่าระหว่างการประกอบอาหาร ไฟจากการหุงต้มได้ลามไปถึงทรายบริเวณนั้น จนหลอมรวมกัน และเกิดการแข็งตัว ในเวลาต่อมากลายมาเป็นแก้ว
ตั้งแต่นั้นมา วิวัฒนาการของแก้วก็ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในกลุ่มธุรกิจต่างๆ มากมายมากว่าพันปี ไม่ว่าจะเป็น ภาชนะ กระจก และเลนส์
แล้วแก้วเกี่ยวอะไรกับ Swarovski?
ก่อนอื่นเลย ถ้าให้เดาถึงผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตคริสตัลอย่าง Swarovski หลายคนคงนึกถึงผู้หญิง วัยกลางคนผู้มีความฝันวัยเด็กว่าอยากเป็น เจ้าหญิงในการ์ตูนผู้มีเครื่องประดับสวมใส่สวยงาม
...แต่ Swarovski ถูกก่อตั้งโดยผู้ชายนักประดิษฐ์คนหนึ่งที่วัยเด็กอยากเป็นนักดนตรี...
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากนาย Daniel Swarovski เขาเกิดในปี 1862 เป็นชาวโบฮีเมีย
ครอบครัวของเขาทำธุรกิจโรงงานตัดแก้วขนาดเล็ก เขาจึงได้เริ่มฝึกงานในโรงงานตั้งแต่ยังเล็ก
แต่ความฝันในวัยเด็กของ Daniel ไม่เกี่ยวกับธุรกิจที่บ้านเลย โดยเขาต้องการเป็นนักไวโอลิน แต่ก็ไม่สามารถทำตามความฝันของเขาได้ เขาจึงไปศึกษาต่อในกรุงปารีส
ที่นั่นเองที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะเขาได้มีโอกาสเข้าร่วมนิทรรศการ First Electrical Exhibition ที่รวบรวมเทคโนโลยีที่นำสมัย และวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ไว้มากมาย
ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่ดึงดูดนาย Daniel ได้มากที่สุดในงานนี้คือ การทดลองถึงความเป็นไปได้ ในการใช้เครื่องจักรไฟฟ้าตัด และเจียระไนแก้ว
หลังจากนั้นประมาณ 10 ปี
เขาก็สามารถประดิษฐ์เครื่องตัด และเครื่องเจียระไนแก้วที่มีความแม่นยำสูง และผลิตได้ที่ละปริมาณมากมากได้สำเร็จ จนกระทั่งนำสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวไปจดเป็นสิทธิบัตร
จุดนี้เองที่ทำให้เขาตระหนักได้ว่า เขาจะสานต่อธุรกิจแก้วที่บ้านได้อย่างไร
เขาคิดค้นส่วนประกอบคริสตัลของตัวเองขึ้นมาในช่วงปี 1890 และมีวิสัยทัศน์ว่า “คริสตัลของ Swarovski เป็นอัญมณีของทุกคน”
คริสตัลของ Swarovski มีส่วนประกอบเป็นตะกั่วมากถึง 32% มากกว่าค่ามาตราฐานที่ 24% เพียงเพราะ ต้องการให้คริสตัลมีการหักเหของแสงมากที่สุด ทำให้ประกายระยิบระยับมากขึ้นเมื่อมีแสงตกกระทบ
แต่ตั้งแต่ปี 2012 Swarovski ได้ค้นพบวิธีการผลิตที่บริษัทเรียกว่า Advanced Crystal โดยจะมีส่วนประกอบของสารตะกั่วเพียง 0.009% และยังคงความแวววาวของอัญมณีชิ้นนี้ได้
คริสตัลของ Swarovski ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และถูกยกให้เป็นอัญมณีชั้นสูงในสมัยนั้น
แม้กระทั่ง Coco Chanel ผู้ให้กำเนิดแบรนด์ Chanel ก็เป็นลูกค้าคริสตัลของ Swartz ส่งผลให้แบรนด์ของเขามีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปอีก
ต่อมาในสมัยสงครามโลก
ทุกธุรกิจสมัยนั้นได้รับผลกระทบจากสงครามโลก Swarovski ก็เช่นกัน ซึ่งทำให้คริสตัลที่นับเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย มียอดขายที่ตกลง
แต่นาย Daniel กลับพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยการสร้างบริษัทลูกขึ้นมาขายสินค้าเกี่ยวกับ เครื่องมือเจียระไน เจาะ ลับคมและการขัดเงาสำหรับงานคอนกรีต โดยบริษัทนี้ยังทำงานอยู่จนปัจจุบัน นั่นคือบริษัท Tyrolit
ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยนาย Wihelm Swarovski ซึ่งเป็นลูกของนาย Daniel ได้แตกกิจการออกเป็น Swarovski Optik KG ทำอุตสาหกรรมผลิตเลนส์ และกล่องส่องทางไกล ด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่า “ให้มนุษย์เราเข้าใกล้ดวงดาวมากขึ้น”
ธุรกิจครอบครัวของ Swarovski เดินทางข้ามเวลามากว่า 100 ปี จนปัจจุบันมีพนักงานในบริษัทกว่า 32,000 คน มีสาขากว่า 2,800 สาขา และอยู่ในประเทศทั่วโลกกว่า 170 ประเทศ
ปิดท้ายด้วยรายได้ของ Swarovski Group ในปี 2017 สูงถึง 130,000 ล้านบาท ซึ่งร้อยละ 77% มาจากธุรกิจคริสตัล
แปลว่า ยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาอยู่ที่ 35.7 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว
ใครจะไปคิดว่า จากโรงงานตัดแก้วเล็กๆ แถบโบฮีเมียตอนเหนือจะกลายมาเป็นอาณาจักรเครื่องประดับสุดหรูยอดขายแสนล้าน
สิ่งที่ทำให้ Swarovski โดดเด่นอาจไม่ใช่เพียงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของบริษัท
แต่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมาจากความอยากรู้อยากเห็นในเทคโนโลยี และความเป็นนักประดิษฐ์ของนาย Daniel ในการคิดค้นคริสตัลให้มีแสงประกายมากกว่าแก้วทั่วไป
ถ้าเรามีหัวคิดเป็นนักประดิษฐ์เหมือนนาย Daniel พยายามค้นหาวิธีอัพเกรด ปรับปรุงสินค้าให้เรามีจุดเด่นเหนือสินค้าคู่แข่ง เราก็อาจจะประสบความสำเร็จได้เหมือน Swarovski..
----------------------
ติดตามเรื่องราวความสำเร็จอื่น ๆ จากบทความลงทุนแมน ได้ที่
-บล็อกดิท blockdit longtunman.com/app
-อินสตาแกรม instagram.com/longtunman
-ทวิตเตอร์ twitter.com/longtunman
-ไลน์ line.me/R/ti/p/%40longtunman
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.