<ผู้สนับสนุน> กรณีศึกษากลุ่ม บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG

<ผู้สนับสนุน> กรณีศึกษากลุ่ม บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG

24 พ.ค. 2018
<ผู้สนับสนุน>
กรณีศึกษากลุ่ม บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG / โดย ลงทุนแมน
ปัจจุบันทุกคนก็รู้ว่า ตอนนี้ทั้งโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
แล้วมีใครบ้างที่กำลังเกาะเมกะเทรนด์นี้อยู่
ธุรกิจหนึ่งในนั้นก็คือ กลุ่มโรงพยาบาล
และกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรีและธุรกิจเกี่ยวข้องภายใต้การดำเนินงานของ THG ก็น่าจะเป็นหนึ่งในบริษัทที่เน้นกลุ่มผู้สูงอายุมากเป็นพิเศษ
ตอนนี้ทั่วโลกกำลังก้าวสู่ช่วงสังคมผู้สูงอายุหรือ Aging Society เนื่องจากอัตราการเกิดน้อยลง และแนวโน้มอายุขัยเฉลี่ยของประชากรทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (UN) พบว่า ในปี 2050 จำนวนผู้สูงอายุทั่วโลกมีสูงถึง 2,000 ล้านคน
ในเอเชีย ประเทศมหาอำนาจอย่างจีนที่มีประชากรมากที่สุดในโลกก็กำลังประสบปัญหาด้านสังคมผู้สูงอายุเช่นกัน
จากผลการสำรวจในปี 2557 จีนมีประชากรผู้สูงอายุ 212 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 5 ของสังคมผู้สูงอายุทั่วโลกและคาดว่าในปี 2593 จะมีสูงถึง 430 ล้านคน
รู้หรือไม่?
ประเทศไทยในปี 2561 นี้มีประชากรผู้สูงอายุสัดส่วน 1 ใน 5 ของประชากรไทยทั้งหมด
ยิ่งไปกว่านั้น มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทยคาดว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 หรืออีกเพียง 3 ปีนี้..
สังคมผู้สูงอายุที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วก็น่าจะส่งผลกระทบกับตลาดแรงงานโดยตรง
ที่กล่าวมานี้ดูเหมือนมีแต่เรื่องร้ายๆ แต่ถ้าเราจับเทรนด์ของสังคมได้ก็อาจจะได้ประโยชน์
ตอนนี้มีหลายธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากโครงสร้างสังคมที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะ “ธุรกิจ Healthcare”
ปัจจุบันธุรกิจนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับคนส่วนใหญ่มีความกังวลกับโรคต่างๆ ที่พบเจอกับคนรอบข้าง โดยเฉพาะในครอบครัวของตัวเอง ทำให้กลุ่มบริการดูแลสุขภาพทางการแพทย์ อาทิ ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ได้เตรียมความพร้อมด้วยศักยภาพทางการดูแลรักษาครอบคลุมทุกปัญหาสุขภาพสำหรับคนทุกช่วงวัยและรองรับเทรนด์และความคิดที่เปลี่ยนไปจากอดีต
จากการพัฒนาองค์ความรู้การดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ทำให้ THG สามารถให้บริการทางการแพทย์ ทั้งการดูแลป้องกันและรักษา ครอบคลุมทุกโรค ในทุกช่วงวัยของชีวิต โดยมีแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ พร้อมนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยเพิ่มความแม่นยำในการดูแลรักษา โดยทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ได้มีการฝึกอบรมความรู้ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
เมื่อปลายปี 2560 บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสร่วมเป็นเจ้าของ
THG ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2516 เพื่อดำเนินธุรกิจหลักคือ การรักษาพยาบาลที่มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ในประเทศ เช่น
โรงพยาบาลธนบุรี ถนนอิสรภาพ
โรงพยาบาลธนบุรี 2 ถนนบรมราชชนนี
และโรงพยาบาลเอกชนในต่างจังหวัดจำนวน 3 แห่ง
ต่างประเทศ เช่น
โรงพยาบาล Welly Hospital ที่ประเทศจีน
และ Ar Yu International Hospital ที่ประเทศเมียนมา
การเข้าไปทำธุรกิจโรงพยาบาลในต่างประเทศต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย โดย THG เป็นโรงพยาบาลไทยรายแรกที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในประเทศจีน
ส่วนธุรกิจที่เมียนมาซึ่งเป็นการร่วมลงทุนนั้น มีผู้ร่วมทุนเป็นผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกรายใหญ่ในเมียนมา และอีกหนึ่งในผู้ร่วมทุนคือทีมแพทย์เมียนมาที่มีความเชี่ยวชาญสูง โดยเฉพาะนายแพทย์มิน โซ วิน ที่เรียกได้ว่าเป็นแพทย์มือหนึ่งและเป็นแพทย์ประจำตัวของอดีตประธานาธิบดีเต็งเส่งอีกด้วย
นอกจากนี้ การบริบาลผู้ป่วยก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจของ THG ที่ตอบรับกับเทรนด์ในปัจจุบันได้ดี เช่น รักษาพยาบาลนอกสถานที่ ให้บริการบ้านพักผู้สูงอายุ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เครื่องเวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์เครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์และทันตกรรม
และที่น่าสนใจคือ THG มีโครงการ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้
โครงการนี้เป็นโครงการที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุและครอบครัวที่มีบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร
ซึ่งล่าสุดโครงการนี้ได้มีการขยายตลาดไปยังลูกค้าในประเทศจีน โดยร่วมมือกับ บริษัท เซี่ยงไฮ้ โลเซน เซลล์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาและจัดจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ที่เซี่ยงไฮ้ เพื่อบุกตลาดวัยเกษียณในประเทศจีน
ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการดูแลสุขภาพที่สะสมมากว่าสี่สิบปี ทำให้การทำโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ค่อนข้างได้เปรียบและมีจุดแข็งเหนือคู่แข่งในธุรกิจ อีกทั้งตอบรับกับเทรนด์สังคมผู้สูงอายุที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกในอนาคต
รายได้รวมจากธุรกิจหลักของบริษัทฯ ใน 3 ปีที่ผ่านมา
ปี 2558 มีรายได้ประมาณ 5,787 ล้านบาท
ปี 2559 มีรายได้ประมาณ 6,229 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ประมาณ 6,611 ล้านบาท
เมื่อดูรายได้แล้วก็น่าจะพอเห็นแนวโน้มการขยายตัวของบริษัทนี้
เรื่องนี้เราได้อะไร
ในบางครั้งการทำธุรกิจคงต้องมองข้ามไปข้างหน้าหลายๆ ปีว่าจะมีสภาพสังคมข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
ถ้ามองย้อนกลับไปในสมัยก่อนก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราคงต้องเน้นสินค้ากับกลุ่มคนที่เป็นวัยกลางคนที่มีกำลังซื้อ
แต่เรื่องนี้อาจจะเปลี่ยนไป เพราะสัดส่วนผู้สูงอายุจะมากขึ้นเรื่อยๆ มากจนในที่สุดเราก็จะเป็นหนึ่งในผู้สูงอายุโดยไม่รู้ตัว..
หมายเหตุ บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาเชียร์ให้ซื้อหรือขายหุ้นตัวนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.