โมเดลธุรกิจ Temu อีคอมเมิร์ซจีน ที่ตีตลาดสหรัฐฯ ได้

โมเดลธุรกิจ Temu อีคอมเมิร์ซจีน ที่ตีตลาดสหรัฐฯ ได้

17 ก.ย. 2023
โมเดลธุรกิจ Temu อีคอมเมิร์ซจีน ที่ตีตลาดสหรัฐฯ ได้ /โดย ลงทุนแมน
TikTok, SHEIN ทั้งสองแพลตฟอร์มเป็นแพลตฟอร์มที่เรียกได้ว่า “โตระเบิด” ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เหมือนกัน
และอีกข้อที่ทั้งสองแพลตฟอร์มมีเหมือนกันคือ เป็นโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในจีน ก่อนที่จะประสบความสำเร็จในระดับโลก ในเวลาต่อมา
และเมื่อไม่นานมานี้ Pinduoduo อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหม่ ชื่อว่า “Temu”
ซึ่งตอนนี้กำลังได้รับความนิยมมาก ในกลุ่มนักช็อปชาวอเมริกัน
ล่าสุด มียอดดาวน์โหลดสูงเป็นอันดับ 1
ทั้งใน App Store และ Google Play ในสหรัฐฯ
แล้ว Temu น่าสนใจอย่างไร ?
ทำไม จึงกลายเป็นที่นิยมในเวลาอันรวดเร็ว ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
รร.นานาชาติ ไบทร์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ จัดโปรแกรม Bright Start! ส่งเสริมพัฒนาการเด็กเล็ก สำหรับเด็กอายุ 1-3 ปี สนใจลงทะเบียนที่ https://bit.ly/3P1qX4N ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.brightoncollege.ac.th/news-events/bright-start-back
╚═══════════╝
หลังจาก Pinduoduo เห็นความสำเร็จของ SHEIN ในการสร้างแพลตฟอร์มรวบรวมสินค้าแฟชั่นราคาถูก ให้คนทั่วโลกเลือกซื้อ
บริษัทจึงอยากที่จะขยายธุรกิจในลักษณะเดียวกันบ้าง
โดยในเดือนกันยายน ปี 2022 หรือราว 1 ปีที่แล้ว Pinduoduo ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ชื่อว่า “Temu” ในสหรัฐฯ ตามมาด้วยประเทศแถบยุโรปในเวลาต่อมา
โดย Temu เป็นแพลตฟอร์มซื้อ-ขายออนไลน์ ที่เรียกได้ว่า มีของขายแทบจะทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของตกแต่งบ้าน ไปจนถึงเครื่องประดับ
แล้ว Temu เติบโตมากแค่ไหนในช่วงที่ผ่านมา ?
นับตั้งแต่เปิดตัว Temu ก็สามารถไต่ขึ้นมาครองอันดับ 1 ทั้งใน App Store และ Google Play ในสหรัฐฯ ได้อย่างต่อเนื่อง และมีผู้ใช้งานเติบโตแบบก้าวกระโดด
- เดือนตุลาคม ปี 2022 มีผู้ใช้งาน 5.8 ล้านราย
- เดือนมกราคม ปี 2023 มีผู้ใช้งาน 36.7 ล้านราย
- เดือนเมษายน ปี 2023 มีผู้ใช้งาน 104.2 ล้านราย
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนน่าจะสงสัยกันว่า
แล้ว Temu เติบโตได้อย่างไร โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่มีเจ้าตลาดอย่าง Amazon อยู่ ?
คำตอบคือ เน้นขายถูก
สินค้าทุกประเภทใน Temu จะมีราคาถูกมาก
โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเจ้าตลาดเดิมอย่าง Amazon
คำถามต่อมาคือ แล้ว Temu ทำอย่างไร จึงสามารถขายของถูกได้ ?
1. โมเดลธุรกิจของ Temu
โดย Temu เป็นแพลตฟอร์มตัวกลาง ที่ใช้คอนเซปต์ของ Group Buying หรือการให้ผู้ใช้งาน รวมกันส่งคำสั่งซื้อ ไปยังร้านค้า หรือผู้ผลิตโดยตรง
เรื่องนี้ช่วยให้สามารถลดต้นทุน ส่วนของพ่อค้าคนกลางลงไปได้
อีกข้อหนึ่งคือ Temu เก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ขายในอัตราที่ต่ำมาก แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลข
แต่เราอาจเทียบกับบริษัทแม่อย่าง Pinduoduo ที่เก็บค่าธรรมเนียมเพียง 0.6% ของยอดขายเท่านั้น
รวมทั้งยังไม่คิดค่าส่ง และค่าคืนสินค้า ภายในระยะเวลาที่กำหนดอีกด้วย
โดยบริษัทจะเน้นไปที่การเพิ่มปริมาณการซื้อขาย และหารายได้จากช่องทางอื่นที่ไม่ส่งผลกระทบต่อราคา เช่น ค่าโฆษณาโปรโมตสินค้าบนแพลตฟอร์ม เป็นต้น
2. สินค้าในแพลตฟอร์ม มีต้นทุนต่ำ
ที่เป็นแบบนี้ เพราะว่าผู้ผลิตส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานในประเทศจีน ซึ่งปกติจะมีต้นทุนค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว
นอกจากนี้ Temu ยังมีบริการ ที่คอยสนับสนุนฝั่งของผู้ผลิต
เช่น การนำเอาข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้งาน มาวิเคราะห์และแนะนำสินค้า รวมทั้งช่วยดูแลงานหลังบ้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบการชำระเงิน ระบบขนส่ง และซัปพลายเชน
ซึ่งจุดนี้ช่วยผ่อนแรง เรื่องการจัดการงานหลังบ้าน เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถโฟกัสกับการวางแผนผลิต ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ด้วยต้นทุนต่ำสุด
จากทั้งสองข้อนี้ ทำให้ Temu สามารถขายของในราคาถูกได้
บวกกับในช่วงที่ผ่านมา ทาง Pinduoduo เองได้มีการทุ่มงบ ไปกับโปรโมชันต่าง ๆ เช่น การให้ส่วนลด
นอกจากนี้ ยังมีการโปรโมตแพลตฟอร์มผ่าน อินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียลมีเดีย เช่น YouTube, TikTok
ทำให้ล่าสุด Temu สามารถทำยอดขายสินค้าบนแพลตฟอร์มได้ราว 14,000 ล้านบาทต่อเดือน แซงหน้ารุ่นพี่ที่ทำตลาดก่อนหน้าอย่าง SHEIN ไปเรียบร้อยแล้ว
แต่ต้องอย่าลืมว่า Temu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจากจีน ก็มีความเสี่ยงในกรณีที่ภาครัฐของสหรัฐฯ หรือประเทศอื่น อาจเข้ามากำกับหรือแบน เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ TikTok
นอกจากนี้ Temu ยังถือว่าเป็นแพลตฟอร์มเกิดใหม่ ที่มีอายุเพียง 1 ปี
แม้ว่าในระยะสั้น จะสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดจากเจ้าตลาดเดิมไปได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม เราต้องจับตาดูต่อไปว่า กลยุทธ์ของ Temu ที่พยายามกดราคาให้ต่ำสุด และผลาญเงินจัดโปรโมชัน จะทำไปได้อีกนานแค่ไหน
หากต้องผลาญเงินไปเรื่อย ๆ เพื่อดึงให้ผู้ใช้งานมาอยู่บนแพลตฟอร์ม ตัวเลือกนี้อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก
ซึ่งเราก็คงเห็นตัวอย่างกันมาแล้ว อย่างในกรณีของ Grab ที่ก่อนหน้านี้ ผลาญเงินจนขาดทุนติดต่อกันหลายปี
แต่หากทำได้ดี จนธุรกิจเริ่มมีกำไร
Temu ก็น่าจะมีศักยภาพ ในการสร้างเม็ดเงินจากทั่วโลกได้
เหมือนกับที่ Pinduoduo ประสบความสำเร็จในประเทศจีน
เรื่องที่น่าคิดและติดตามจากเรื่องนี้คือ
ในยุคที่เทคโนโลยีเชื่อมต่อ
Supply กับ Demand ได้ทุกแห่งหนนั้น
ใครก็ตามที่มองเห็นความต้องการของผู้บริโภคได้ชัดเจน และเสนอทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้
ย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ระดับประเทศ แต่เป็นทั่วโลก
ซึ่งในขณะนี้ ต้องยอมรับว่า เป็นผู้ประกอบการจากจีน ที่ทำได้ดีในธุรกิจหลายประเภท
ก็ไม่แน่ว่า ในอนาคตเราอาจได้เห็น Temu โลดแล่นอยู่ในเวทีโลก ไม่แพ้ TikTok, SHEIN ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
รร.นานาชาติ ไบทร์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ จัดโปรแกรม Bright Start! ส่งเสริมพัฒนาการเด็กเล็ก สำหรับเด็กอายุ 1-3 ปี สนใจลงทะเบียนที่ https://bit.ly/3P1qX4N ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.brightoncollege.ac.th/news-events/bright-start-back
╚═══════════╝
References
-https://productmint.com/how-does-temu-make-money/
-https://ecommercedb.com/insights/temus-strategy-to-compete-in-the-realm-of-ultra-fast-ecommerce/4439
-https://www.cincinnati.com/story/special/contributor-content/2023/07/05/temus-app-success-and-growth-explained/70383516007/
-https://www.macrotrends.net/stocks/charts/PDD/pdd-holdings/revenue
-https://www.businessofapps.com/data/temu-statistics/
-https://www.statista.com/statistics/1399786/temu-monthly-gross-merchandise-value/
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.