Apple Watch หรือ Fitbit ขายดีกว่ากัน?

Apple Watch หรือ Fitbit ขายดีกว่ากัน?

28 ม.ค. 2018
Apple Watch หรือ Fitbit ขายดีกว่ากัน? / โดย ลงทุนแมน
ทุกวันนี้ถ้าเราออกกำลังกาย
จะเห็นหลายคนใส่นาฬิกาแบบพิเศษ
ที่ช่วยจับชีพจร ระยะทางการวิ่ง
แต่เคยสงสัยไหมว่านาฬิกาประเภทนี้
ยี่ห้อไหนเป็นผู้นำตลาด?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
นาฬิกาประเภทนี้ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ไอทีประเภทสวมใส่ (Wearable Device) และหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก คงหนีไม่พ้น Apple Watch
Apple Watch เป็นนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ ที่ผลิตโดยบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอย่าง Apple เปิดขายครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2558
ในปีที่แล้ว Apple ได้ประกาศว่า Apple Watch เป็นแบรนด์นาฬิกาที่มียอดขายสูงที่สุดในโลก โดยประเมินว่าปี 2559 มีรายได้อยู่ที่ 191,000 ล้านบาท แซงหน้าแบรนด์นาฬิกาชื่อดังอย่าง Rolex ที่มีรายได้ 143,000 ล้านบาท
เหตุผลที่ Apple Watch สามารถก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้ อาจเป็นเพราะ สามารถใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้มากกว่า ไม่ได้มีไว้แค่ดูเวลาเหมือนกับนาฬิกาปกติ ใส่แล้วก็ดูดีไปอีกแบบ ใส่ตอนออกกำลังกายได้ด้วย
นั่นทำให้ เจ้าตลาดนาฬิกาหรู อย่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก หลังยอดส่งออกนาฬิกา ของประเทศในปี 2559 ลดลงราว 10% และแนวโน้มในปี 2560 อาจจะทำได้แค่ประคองตัวในระดับเดิม
Apple Watch ครองโลกแล้วหรือ?
แม้ว่าในธุรกิจนาฬิกา Apple จะบอกว่า ตัวเองสามารถครองตลาดนาฬิกาในแง่ยอดขายได้แล้ว แต่ถ้าวัดกันที่จำนวนเครื่องที่ขายได้ Apple ยังแพ้คู่แข่งรายอื่นอยู่
โดยในตลาดนี้ มีแบรนด์ที่แข่งขันกันอยู่ 4 รายหลักๆ คือ Apple, Fitbit, Xiaomi และ Garmin ซึ่งแต่ละราย มียอดขาย และส่วนแบ่งตลาด ดังต่อไปนี้
ปี 2558 ยอดขายทั้งตลาด 78.1 ล้านเครื่อง แบ่งเป็น
1. Fitbit ยอดขาย 21 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 26.9%
2. Xiaomi ยอดขาย 12 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 15.4%
3. Apple Watch ยอดขาย 11.6 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 14.9% (เพิ่งวางขายรุ่นแรก ในไตรมาสที่ 2)
4. Garmin ยอดขาย 3.3 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 4.2%
ปี 2559 ยอดขายทั้งตลาด 102.4 ล้านเครื่อง แบ่งเป็น
1. Fitbit ยอดขาย 22.5 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 22.0%
2. Xiaomi ยอดขาย 15.7 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 15.4%
3. Apple Watch ยอดขาย 10.7 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 10.5%
4. Garmin ยอดขาย 6.1 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 5.9%
ปี 2560 (9 เดือน) ยอดขายทั้งตลาด 77.3 ล้านเครื่อง แบ่งเป็น
1. Xiaomi ยอดขาย 10.7 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 13.8%
2. Fitbit ยอดขาย 10 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 12.9%
3. Apple Watch ยอดขาย 9.7 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 12.5%
4. Garmin ยอดขาย 3.8 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่ง 4.9%
จะเห็นว่า Fitbit คือผู้ที่ครองตลาดแบบทิ้งห่างคู่แข่งมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นรายแรกๆที่ขายผลิตภัณฑ์นี้
แต่ล่าสุดตกมาอยู่ในอันดับ 2 โดน Xiaomi ที่สามารถครองตลาดบ้านเกิดในจีนได้เป็นส่วนใหญ่ แซงไปในที่สุด
ส่วน Apple Watch เพิ่งเปิดตัวทีหลัง และเริ่มต้นได้ดี ครองส่วนแบ่งได้ราว 10-15% อยู่ในอันดับที่ 3 แต่การใช้งานนาฬิกาประเภทนี้ อาจจะเด่นชัดในเรื่องสุขภาพ ผู้บริโภคจึงเลือกซื้อ Fitbit หรือ Xiaomi ที่มีแค่ฟังก์ชันด้านสุขภาพเป็นหลักเช่นกัน และราคาถูกกว่า
ปัจจุบัน Apple Watch ยังมีเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ นอกจากตรวจวัดและแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพแล้ว ยังสามารถใช้งานโทรศัพท์ ใช้งานอินเทอร์เน็ต ส่งข้อความแชท ฟังเพลง หรือใช้งานระบบนำทาง มี Application รองรับการใช้งานมากมาย จนแทบไม่ต่างจาก iPhone เลย
ในอนาคต ก็ต้องคอยติดตามว่า Apple Watch จะสามารถแซงขึ้นมาครองตลาดได้หรือไม่
ต่อไปเราอาจจะไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมา
แค่พลิกข้อมือขึ้นมาก็คุยโทรศัพท์ได้ ตอบแชทได้
ในทุกๆวัน ก็จะมีคนคอยแนะนำว่า เรานั่งทำงานนานเกินไปไหม ควรจะลุกไปเดินเมื่อไร
ดื่มน้ำน้อยเกินไปไหม ออกกำลังกายมีประสิทธิภาพหรือเปล่า ราวกับว่า เรามีผู้ช่วยส่วนตัว
ในโลกของการแข่งขัน ใครที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคได้มากกว่า ย่อมมีข้อได้เปรียบ
ถ้าให้ย้อนกลับเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คงยังไม่มีใครคิดว่านาฬิกาประเภทนี้จะเป็นที่ต้องการของตลาด
คนที่มองเห็นอนาคต ก็จะได้รางวัลไปครอง เหมือนทั้ง Apple Watch, Fitbit, Xiaomi ที่กำลังกอบโกยยอดขายจากตลาดนี้อยู่
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเรามีนาฬิการาคาแพง ฟังก์ชันดีขนาดไหน
ถ้าเราไม่เป็นคนตรงต่อเวลา นาฬิกานั้นก็คงทำหน้าที่ของมันได้ไม่สมบูรณ์..
----------------------
<ad> งานแข่งขัน ประชันไอเดียนวัตกรรมทางธุรกิจที่จะเปลี่ยนการใช้ชีวิตของคนในสังคม
“InnovBiz 2018: Better Life, Better Society”
สุดยอดไอเดียจากเด็กรุ่นใหม่ ที่รวบรวมเอาปัญหาของกลุ่ม First Priority มาแก้ไข และพบ Guest Speaker ที่จะมาแชร์ประสบการณ์การช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา
4 กุมภาพันธ์ 2561 ตั้งแต่เวลา 9:00 - 13:00 น. ที่ห้องออดิทอเรียม ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (สวทช.) (ใน มธ.รังสิต)
ลงทะเบียนฟรี!!! ได้ที่ www.innovbiz2018.com
เฟซบุ๊ค Innovbiz 2018
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.