วิกฤติ โตชิบา
โตชิบา นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต สโลแกนนี้หลายคนคงเคยได้ยินตอนเด็กๆ ถ้าพูดถึงชื่อนี้คงนึกถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี ตู้เย็น โน้ตบุ๊ค ที่คุ้นเคยกันมานาน แต่ตอนนี้โตชิบากำลังอยู่ในขั้นวิกฤติ และต้องขายกิจการ
โตชิบาก่อตั้งเมื่อ 142 ปีที่แล้ว โดยบริษัทไม่ได้มีรายได้หลักมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว แต่รายได้หลักมาจาก 3 ธุรกิจคือ
1) พลังงาน และโรงไฟฟ้า
2) สาธารณูปโภค เช่น ระบบบำบัดน้ำเสีย ลิฟท์ แอร์ ระบบรถไฟ
3) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ฮาร์ดดิสก์ เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งตอนนี้โตชิบาเป็นบริษัทที่ผลิต ชิพหน่วยความจำ อันดับต้นๆของโลก
1) พลังงาน และโรงไฟฟ้า
2) สาธารณูปโภค เช่น ระบบบำบัดน้ำเสีย ลิฟท์ แอร์ ระบบรถไฟ
3) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ฮาร์ดดิสก์ เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งตอนนี้โตชิบาเป็นบริษัทที่ผลิต ชิพหน่วยความจำ อันดับต้นๆของโลก
บริษัทโตชิบาถือว่าเป็นบริษัทเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง และเป็นบริษัทชั้นนำในการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ โตชิบาเป็นบริษัทแรกในญี่ปุ่นที่ผลิตหลอดไฟ เครื่องโทรเลข เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น และ เตาไมโครเวฟ ให้แก่ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น
แต่แล้วเมื่อปี 2015 ผู้บริหารของโตชิบาได้ออกมายอมรับว่าในช่วงปี 2008 - 2015 บริษัทได้รายงานผลกำไรเกินจริงไป 42,000 ล้านบาท หลังจากแถลงข่าวผู้บริหารก็โค้งคำนับเพื่อขอโทษเป็นเวลา 15 วินาที (ตามรูปด้านล่าง) ซึ่งนับเป็นการเสียภาพพจน์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ 140 ปีของบริษัท
แต่เหมือนแมลงสาบไม่ได้มีตัวเดียว..
Westinghouse เป็นบริษัทโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่อเมริกาซึ่งถูกโตชิบาซื้อไปเมื่อปี 2006 เมื่อไม่นานมานี้โตชิบาออกมารายงานว่าบริษัทจะต้องรับรู้ผลขาดทุนเป็นเงินหลายแสนล้านบาท จากปัญหาการก่อสร้างที่ล่าช้า และค่าก่อสร้างสูงกว่าในแผนงาน
โตชิบาได้ขอเลื่อนการประกาศงบการเงินไตรมาส 4 ปี 2016 ออกไป สำหรับในวงการตลาดทุนแล้ว การไม่ประกาศงบการเงินตามกำหนด เป็นสัญญาณที่ไม่ดีเอามากๆสำหรับผู้ถือหุ้น และการกระทำดังกล่าวของบริษัท มีความเสี่ยงที่จะถูกพักการซื้อขายหุ้นในตลาด และถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์
มีการคาดการณ์กันว่าการรับรู้ผลขาดทุนของ Westinghouse จะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ ซึ่งหมายความว่าในทางเทคนิคแล้วโตชิบากำลังจะล้มละลาย
ที่น่าสนใจคือ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 โตชิบามีส่วนของผู้ถือหุ้นซึ่งสะสมจากการทำธุรกิจมา 140 ปีเป็นเงิน 300,000 ล้านบาท แต่เมื่อโตชิบาผิดพลาด ใช้เวลาแค่ 2 ปีในการทำให้เงินที่สะสมมาหายไปทั้งหมด และตอนนี้แถมหนี้สินมาด้วย
นักวิเคราะห์ให้เหตุผลว่าโตชิบาซื้อ Westinghouse ในราคาที่แพงไป และเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟูกูชิม่าในปี 2011 ทำให้ภาพธุรกิจพลังงานนิวเคลียร์ได้เปลี่ยนไป การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องการความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น และทำให้มีต้นทุนที่สูงขึ้นตามมา
และถ้าบริษัทมีส่วนผู้ถือหุ้นติดลบติดต่อกัน 2 ไตรมาส บริษัทก็จะถูกถอดออกตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน ตอนนี้โตชิบาจึงจำเป็นต้องหาเงินโดยด่วนจากการขายสินทรัพย์ของบริษัท หรือ จากการเพิ่มทุน
ในวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา Westinghouse Electric บริษัทลูกที่อเมริกาได้ยื่นขอล้มละลายเพื่อจำกัดผลขาดทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และโตชิบาได้ประกาศว่าจะขายธุรกิจ ชิพหน่วยความจำธุรกิจที่กำไรดีที่สุดของโตชิบา ซึ่งถ้าขายธุรกิจนี้ได้ โตชิบาก็จะได้เงินมาใช้หนี้ และรอดจากการล้มละลาย ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราคุ้นเคยอาจจะยังอยู่ได้ แต่บริษัทก็จะยังมีหนี้เหลือจำนวนมากอยู่ดีซึ่งอาจจะต้องขายธุรกิจอื่นๆอีกในอนาคต
ทั้งนี้มีหลายบริษัทที่จะเข้ามาร่วมประมูลเสนอซื้อธุรกิจ ชิพหน่วยความจำ จากโตชิบา และบริษัทเหล่านั้นก็คือบริษัท..
Apple, Google และ Amazon
ธุรกิจกำลังอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านอย่างแท้จริง
Tag: toshiba