บีควิก รายได้เท่าไร

บีควิก รายได้เท่าไร

4 พ.ย. 2017
บีควิก รายได้เท่าไร / โดย ลงทุนแมน
เราคงได้เห็นโฆษณา B-Quik กันบ่อย
อะไรที่เราได้เห็นโฆษณาบ่อย ต่อไปนี้รู้ไว้เลยว่า
บริษัทนั้นต้องมีรายได้ระดับพันล้าน
และ B-Quik ก็เป็นหนึ่งในบริษัทพันล้าน
ลูกค้า B-Quik คือใคร? ทำไมรายได้ดี
เชื่อว่าหลายๆ คนเมื่อซื้อรถแล้ว ถ้ายังอยู่ในช่วงระยะเวลารับประกัน คนส่วนใหญ่ก็คงนำรถเข้าศูนย์บริการ แต่พอหมดสัญญาการรับประกัน บางคนอาจหันไปใช้ศูนย์บริการรถยนต์ภายนอก ซึ่งอาจเกิดจากหลายเหตุผล เช่น เดินทางสะดวก ราคาที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพ รวมไปถึงไม่ต้องรอคิวนานเหมือนนำรถเข้าศูนย์บริการค่ายรถต่างๆ
นั่นจึงทำให้ B-Quik เป็นหนึ่งในตัวเลือกของศูนย์บริการ วันนี้ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟังว่า ว่า B-Quik เริ่มจากอะไร
B-Quik ก่อตั้งเมื่อปี 1995 เดิมชื่อบริษัท บุญผ่อง จำกัด ต่อมาทางบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ จำกัด (FORD) ได้เข้าซื้อกิจการ อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้น FORD เกิดปัญหาภายใน ทำให้ FORD ตัดสินใจขายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักออกไป ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ B-Quik
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้บริหารของ B-Quik ในปัจจุบัน ตัดสินใจทำ Management Buyout คือซื้อกิจการ B-Quik ต่อจาก FORD ในปี 2003
ปัจจุบัน B-Quik เป็นศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร เชี่ยวชาญในการให้บริการซ่อม เปลี่ยนยาง ซ่อมบำรุงระบบเบรก แบตเตอรี่ โช้คอัพ ช่วงล่าง ระบบแอร์รถยนต์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และซ่อมรอยแตกกระจกรถยนต์ เป็นต้น
B-Quik มีสาขาที่เปิดให้บริการประมาณ 140 แห่งทั่วประเทศใน 48 จังหวัด รวมไปถึงมีสาขาที่ต่างประเทศ อยู่ที่พนมเปญ จำนวน 1 สาขา และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของการขยายสาขาที่เมียนมาร์ในอนาคต
ข้อได้เปรียบของ B-Quik คือ ด้าน Economy of Scale ที่ทำให้สามารถสั่งซื้อสินค้ามาลงสต็อกได้ในราคาที่ได้เปรียบคู่แข่ง
รวมถึง นโยบายการให้บริการที่รวดเร็ว โดยลูกค้าสามารถเดินมาดูรถได้ขณะที่ช่างให้บริการหรือแม้แต่ดูผ่านกล้อง CCTV (เทียบกับกรณีที่เอารถเข้าศูนย์ค่ายรถ ซึ่งเราต้องไปนั่งในห้องรับรอง)
B-Quik ยังมีระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า มีฐานข้อมูล online เชื่อมโยงทุกศูนย์ ทำให้ไม่ว่าลูกค้าไปใช้บริการที่ศูนย์ไหนข้อมูลของลูกค้าจะเป็นปัจจุบันถึงกันหมดและสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวางแผนการให้บริการในอนาคตได้
เมื่อไม่นานมานี้ B-Quik มีการใช้หุ่นยนต์ตั้งศูนย์ทื่ชื่อว่า R.E.M.O (Robotic Equipment for Measuring by Optics) เครื่องแรกในประเทศไทย โดยใช้แสงเลเซอร์และระบบคอมพิวเตอร์วัดค่าต่างๆ เพื่อตั้งศูนย์ล้อ วิธีนี้ทำให้ลดปัญหาการเกิดรอยขีดข่วนขณะที่ตั้งศูนย์ล้อไปได้
ในปี 2015 B-Quik สามารถขายยางได้กว่า 1 ล้านเส้น จากยอดขายยางทั่วประเทศที่ประมาณ 9 ล้านเส้น และให้บริการรถของลูกค้ามากกว่า 1.3 ล้านคัน
ปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ B-Quik คือ บริษัท บี คิว เอช จำกัด (51%) และบี-ควิก โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด (48.99%)
รายได้และกำไรของ บริษัท บี-ควิก จำกัด
ปี 2014 รายได้ 5,070 ล้านบาท กำไร 502 ล้านบาท
ปี 2015 รายได้ 5,785 ล้านบาท กำไร 565 ล้านบาท
ปี 2016 รายได้ 6,267 ล้านบาท กำไร 653 ล้านบาท
ใครๆ ก็รู้ว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือน และ รถคันแรก ส่งผลกระทบกับการขายรถใหม่ในตลาด
แต่ดูเหมือนว่า ผลประกอบการของ B-Quik ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย ตรงกันข้ามกลับดีขึ้น
อาจเป็นเพราะ คนที่มีรถอยู่แล้วไม่อยากซื้อรถใหม่แต่จะมีการดูแลรักษารถที่มีอยู่แล้วมากยิ่งขึ้น จึงส่งผลดีต่อ B-Quik
เรื่องนี้ก็ทำให้เราคิดได้ว่าธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์มีมูลค่ามหาศาล ตั้งแต่โรงงานผลิตรถยนต์ ดีลเลอร์รถยนต์ ประกันภัยรถยนต์ จนมาถึงศูนย์บริการอย่าง B-Quik
ถ้าเราอยากเริ่มต้นธุรกิจ โดยไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี
ข้อแรกที่ต้องคิด คือ ตลาดทั้งหมดมีมูลค่ามากขนาดไหน
ถ้าเราดันทุรังจะขายสินค้าในตลาดที่มีคนซื้อน้อย ต่อให้สินค้าดีแค่ไหนมันก็โดนจำกัดอยู่แค่นั้น
แต่ถ้าเราขายสินค้าในตลาดที่มูลค่ามหาศาล แค่ทำให้สินค้าเราดีกว่าค่าเฉลี่ย ถึงตอนนั้นก็คงมีสเกลเป็นพันล้านแบบ B-Quik ได้ไม่ยาก..
----------------------
<ad> ถ้าเรามีบ้าน หรือ คอนโด ที่ผ่อนกับธนาคารอยู่ แต่อยากลดดอกเบี้ย หรือ ยืดเวลาผ่อน มารีไฟแนนซ์ กับ REFINN ฟรีได้ที่ https://goo.gl/2KgGWa
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.