David Choe ศิลปินอเมริกันเชื้อสายเกาหลีชื่อดัง
คนไทยเราอาจจะไม่คุ้นเคยกับศิลปินผู้นี้
เขาเป็นใคร เขาทำอะไร ทำไมเขาถึงโชคดี?
เรื่องนี้มีข้อคิดบางอย่างให้เราเรียนรู้

David Choe เกิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 1976 ปัจจุบันอายุ 41 ปี เป็นศิลปินที่มีฝีมือในด้านของการวาดภาพฝาผนังและศิลปะกราฟิตี้ หรือการสเปรย์บนกำแพงนั่นเอง

ถ้าเขาคนนี้มาอยู่บ้านเรา ก็คงเป็นอาชีพที่ไม่มีใครเห็นค่าเท่าไรนัก

โดยจุดเด่นของศิลปินผู้นี้คือการสื่อศิลปะออกมาในรูปแบบของความดิบของมนุษย์ หรือที่เค้าเรียกตัวเองว่าเป็นศิลปิน “Dirty style”

ชีวิตในวัยเด็กของ David Choe นั้นไม่ได้ราบรื่นเท่าใดนัก เขาเกิดในครอบครัวเกาหลีที่อพยพมาอยู่ใน Los Angeles สหรัฐอเมริกา เมื่ออายุ 14 ปี เขาเริ่มฝึกสเปรย์บนกำแพงครั้งแรก โดยเริ่มจากการฝึกพ่นสีในข้อความของพระคัมภีร์ Bible “Jesus Wept”

เมื่ออายุ 16 ปี ธุรกิจครอบครัวของเขาถูกไฟไหม้ ซึ่งนำมาสู่ปัญหาทางการเงินของครอบครัว เขาตัดสินใจออกจากโรงเรียนและออกเดินทางไปทั่วอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง รวมถึงแอฟริกา สร้างวีรกรรมทั้งขโมยของ ถูกจับเข้าคุก และอื่นๆอีกมากมาย

เมื่ออายุ 21 ปี David ตัดสินใจเข้าสมัครในวิทยาลัยเพื่อศึกษาเรื่องศิลปะอย่างจริงจัง โดยมีเพียงแห่งเดียวที่ตัดสินใจรับเขาเข้าศึกษา ซึ่งคือ California College of the Arts หลังจากเรียนได้ 2 ปี David ก็ลาออก และกลับมาอยู่ที่ Los Angeles บ้านเกิด

David ได้เริ่มทำงานวาดภาพให้แก่นิตยสารต่างๆ มีทั้งนิตยสารสำหรับผู้ใหญ่ ดนตรี และการ์ตูน ซึ่งเขาทำได้ดีในงานเหล่านี้เรื่อยมา จนกระทั่งได้เป็นศิลปินที่แสดงภาพของตัวเองในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ

David มีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆ จนได้วาดภาพปกอัลบั้มให้แก่ศิลปินชื่อดังอย่าง Jay-Z และ Linkin Park อีกทั้งยังเป็นศิลปินที่ทำงานใน Hollywood โดยวาดภาพให้แก่ภาพยนตร์ต่างๆ อีกมากมาย

เรียกได้ว่าถึงจุดนี้ David Choe นั้นประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินคนหนึ่งเรียบร้อยแล้ว

จนกระทั่งปี 2005 Sean Parker ผู้ซึ่งเป็นประธานของ Facebook ในขณะนั้น ได้เชิญ David Choe ให้ไปวาดภาพฝาหนังในออฟฟิศแห่งแรกของ Facebook ใน Silicon Valley

โดย David ถูกเสนอให้เลือกว่าจะรับค่าจ้างเป็นเงิน 60,000 เหรียญ (ประมาณ 2 ล้านบาท) หรือให้เลือกรับค่าจ้างเป็นหุ้นในบริษัท Facebook ในมูลค่าเท่ากันในขณะนั้น

ในช่วงนั้นเป็นช่วงเริ่มต้นของ Facebook และ Facebook คงยังไม่มีรายได้มากเท่าไรนัก จึงอยากจ่ายค่าตอบแทนเป็นหุ้นของบริษัทตัวเองมากกว่า เงินสด

ทั้งๆที่ David Choe คิดว่าโมเดลธุรกิจของ Facebook ในขณะนั้น “ไร้จุดหมายและตลกสิ้นดี”แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนที่ชื่นชอบความท้าทายตามสไตล์ศิลปิน จึงลองตัดสินใจเลือกรับค่าจ้างเป็นหุ้นใน Facebook

ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น

ในปี 2012 Facebook ทำ IPO เข้าตลาดหุ้น ส่วนแบ่งในหุ้นของ David มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 200 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 6,700 ล้านบาท

จากนั้นชีวิตการเป็นศิลปินก็เปลี่ยนไปตลอดกาล

ใครจะคิดว่าจากการเลือกรับหุ้นแทนค่าจ้างจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องขนาดนี้ โดยเฉพาะในคนที่ไม่เชื่อในอนาคตของธุรกิจนั้นแม้แต่นิดเดียว

ชีวิตของ David Choe ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เขาเป็นหนึ่งในศิลปินไม่กี่คนที่ก้าวข้ามจากการมีผลงานในโลกของพิพิธภัณฑ์ กลายมาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในสื่อต่างๆ

David ได้เป็นแขกรับเชิญในรายการชื่อดังของทั้ง CNN และ HBO รวมถึงได้ร่วมงานกับค่ายหนังอย่าง Sony Pictures, Fox Searchlight, Warner Brothers และอีกมากมาย

บทเรียนจากเรื่องนี้อาจจะสรุปได้ว่า ความโชคดีของคนเรานั้นอาจเกิดขึ้นได้บางครั้งบางคราว

แต่จากเรื่องราวของ David Choe นี้ ทำให้คิดได้ว่า การมีโชคของเรา จริงๆ แล้วก็อาจจะมีส่วนมาจากความสามารถของเราเองประกอบด้วย

คนที่มองว่า David โชคดีก็คงจะมองแบบผิวเผินเกินไป

หาก David ไม่ใช่คนที่มีความพยายามและตั้งใจในสิ่งที่ตัวเองทำ ก็คงไม่ได้ถูกจ้างจากศิลปินดัง และในที่สุดก็ถูกจ้างจาก Facebook

หาก David ไม่บ้าพอที่จะรับข้อเสนอจาก Facebook แทนที่จะรับเงินสด 2 ล้านบาท เขาก็คงไม่ได้เงินมากขนาดนี้

โชคนั้นเป็นสิ่งที่เราคาดเดาไม่ได้ แต่จริงๆ แล้ว ความสามารถก็อาจจะนำพาโชคมาหาเราได้ถี่มากขึ้น

แทนที่จะนั่งรอโชคเข้ามาหาเราทุกวันที่ 1 และ 16 เราน่าจะพัฒนาความสามารถของเราเพื่อให้มีสิทธิ์เข้าถึงโชคได้บ่อยขึ้นน่าจะดีกว่า..