กรณีศึกษา Cash Express โรงรับจำนำรูปแบบใหม่

กรณีศึกษา Cash Express โรงรับจำนำรูปแบบใหม่

23 เม.ย. 2019
กรณีศึกษา Cash Express โรงรับจำนำรูปแบบใหม่ / โดย ลงทุนแมน
ถ้าเราเคยเห็นป้ายโรงรับจำนำ
อาจเกิดความสงสัยว่า
โรงรับจำนำ ยังอยู่ได้หรือในปัจจุบัน?
แต่หนึ่งในนั้น มีโรงรับจำนำหนึ่งที่น่าจับตา
โรงรับจำนำนี้ชื่อ Cash Express
เพราะอะไร Cash Express ถึงยังอยู่ได้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
คำว่า “โรงรับจำนำ” เมื่อได้ยินคำนี้ทุกคนคงนึกถึงภาพลักษณ์ของโรงรับจำนำที่ดูเป็นเรื่องเก่าแก่โบราณ ไม่น่าใช้บริการ
แต่ Cash Express กลับทำให้ความรู้สึกนี้เปลี่ยนไป
ชื่อที่ดูมีความเป็นสากลนี้ จริงๆ แล้ว Cash Express เป็นโรงรับจำนำที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 หรือ 35 ปีที่แล้ว
มาวันนี้ Cash Express สามารถก้าวขึ้นมาเป็นโรงรับจำนำที่มีสาขามากที่สุดในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
หลายคนคงสงสัยว่า Cash Express ทำอะไร มีกลยุทธ์อะไรบ้าง?
สิ่งที่ Cash Express ทำเป็นอย่างแรกก็คือ การปรับภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัยขึ้น
เริ่มจากการใช้สีอาคารเป็นสีส้มสะดุดตา คิดค้นโลโก้ที่จดจำได้ง่าย ภาษาอังกฤษทันสมัย ไม่เหมือนโรงรับจำนำแบบดั้งเดิมที่เน้นตัวอักษรจีน และความเก่าแก่
เมื่อเป็นอย่างนี้ ภาพภายนอกของ Cash Express ก็มีความแตกต่างจากโรงรับจำนำทั่วไป
ประเด็นต่อมาคือ บรรยากาศเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในโรงรับจำนำ
ภาพของโรงรับจำนำที่ดูเก่าๆ มืดๆ และมีกรงเหล็กกั้นระหว่างเจ้าของ พนักงาน และลูกค้า
สำหรับ Cash Express จะมีหน้าตาที่ทันสมัย ติดไฟสว่าง และมีการนำกระจกมาใช้กั้นแทนกรงเหล็ก
หรือแม้แต่การใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือ แทนการใช้หมึกดำๆ มาปั๊มนิ้ว
ที่น่าสนใจคือ Cash Express ยังเป็นโรงรับจำนำแห่งแรก ที่มีการรับประเมินราคาสินทรัพย์ทางออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
ถ้าถามว่าที่ผ่านมาตลาดโรงรับจำนำในประเทศไทยเป็นอย่างไร?
หลายคนคงบอกว่าถดถอย
แต่จริงๆ แล้ว เมื่อดูจากสถิติ คนที่ใช้บริการโรงรับจำนำกลับเพิ่มขึ้นทุกปี..
จากรายงานประจำปีของสำนักงานธนานุเคราะห์ พบว่า
ปี 2559 มีคนเข้าใช้บริการ 1.21 ล้านคน
ปี 2560 มีคนเข้าใช้บริการ 1.22 ล้านคน
ปี 2561 มีคนเข้าใช้บริการ 1.31 ล้านคน
ซึ่งถ้าเทียบกับจำนวนผู้ขอสินเชื่อส่วนบุคคล จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย
จำนวนบัญชีผู้ขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์มี 2.5 ล้านบัญชี
เท่ากับว่า ตัวเลขผู้ใช้บริการโรงรับจำนำ คิดเป็นถึงครึ่งหนึ่งของผู้ขอสินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคารพาณิชย์เลยทีเดียว
Cash Express ได้เห็นโอกาสนี้ในการขยายสาขาเพื่อครอบคลุมตลาดที่กว้างขึ้น จนตอนนี้มี 11 สาขา ครอบคลุมทั่วกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
แล้วเพราะอะไร คนถึงยังใช้บริการโรงรับจำนำ?
ปัจจัยหลักอาจอยู่ที่ ตลาดสินเชื่อที่ยังเป็นเหมือนมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ และไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถขอสินเชื่อจากธนาคารทั่วไปได้
โรงรับจำนำ เปรียบเสมือนกับสถาบันการเงินทางเลือกที่หลายๆ คนคิดไม่ถึง เพราะนอกจากจะสามารถจ่ายเงินได้เร็วที่สุดแล้ว ยังใช้หลักฐานในการดำเนินการน้อยที่สุดด้วย
เพราะถ้าพูดถึงการขอสินเชื่อ หลายคนอาจมีข้อจำกัด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านเครดิต เอกสารจำเป็นต่างๆ ที่ต้องนำส่งเพื่อขอสินเชื่อ เช่น สลิปเงินเดือน บัญชีธนาคาร โฉนดที่ดิน หรือทะเบียนรถ
หรือข้อจำกัดเรื่องเวลา ที่ทำให้ไม่สามารถรอการอนุมัติได้
หรือคนกลุ่มนี้อาจมีสินทรัพย์ที่ยังไม่มีช่องทางรองรับการค้ำประกันด้วยสินทรัพย์เหล่านี้ เช่น นาฬิกา เครื่องประดับ หรือแม้แต่ โทรศัพท์มือถือ
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้โรงรับจำนำ ยังเป็นแหล่งเงินทุนที่สำคัญ สำหรับหลายคนที่จำเป็นต้องใช้เงิน และ Cash Express ก็มองเห็นโอกาสนี้ โอกาสในธุรกิจที่ทุกคนไม่สนใจ
เรื่องนี้จึงถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
จากธุรกิจที่คนคิดว่าไม่ได้รับความนิยมแล้ว ไม่น่าจะอยู่รอดได้
กลับเป็นธุรกิจที่ยังเติบโตอยู่
ไม่ว่าเราทำธุรกิจอะไร
ถ้าเรามองออกว่าจุดอ่อนของธุรกิจเราคืออะไร
อุตสาหกรรมเปลี่ยนไปอย่างไร
และปรับตัวให้เข้ากับสิ่งนั้น
สุดท้ายแล้ว เราก็จะประสบความสำเร็จได้เหมือน Cash Express..
----------------------
ติดตามเรื่องหลากหลาย จากผู้เขียนเก่งๆ ในแอป blockdit
นอกจากนั้น เรายังเขียนเองได้ และสามารถสร้างรายได้ในนี้
โหลดแอปได้ที่ blockdit.com
สั่งซื้อหนังสือลงทุนแมน 10.0 ได้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/100-i312324208-s559866635.html?mp=3&spm=0.0.productPromotion_13579257.1
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.