ประเทศไทยจะเป็นอย่างไรในปี 2019

ประเทศไทยจะเป็นอย่างไรในปี 2019

13 มี.ค. 2019
ประเทศไทยจะเป็นอย่างไรในปี 2019 / โดย ลงทุนแมน
“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”
เป็นปรัชญายอดนิยมจากตำราพิชัยสงครามของซุนวู
ซึ่งถ้าเรานำมาเปรียบกับการลงทุน
ก็เหมือนกับว่า การรู้ทิศทางของเศรษฐกิจ
จะเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการลงทุนของเราได้
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ในปีที่ผ่านมาคงต้องยอมรับว่า มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของประเทศไทยเกิดขึ้นมากมาย
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้ถูกนำมาวิเคราะห์ และกลายเป็นบทสรุปทิศทางต่อไปของประเทศไทยในงานสัมมนา KRUNGSRI EXCLUSIVE Economic and Investment Outlook 2019
สำหรับเศรษฐกิจของประเทศไทยคาดว่าจะมีการขยายตัวที่อัตรา 3-4%
โดยปีนี้คาดว่าการลงทุนในภาคเอกชนน่าจะมีการขยายตัวได้ดีตามภาครัฐที่มีการเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาณหนี้เสียทั้งหมดอยู่ในระดับคงตัว
อย่างไรก็ตามภาคการเกษตรก็ยังคงอยู่ในสภาวะน่าเป็นห่วง
เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดมีราคาที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะปาล์มและยาง ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรโดยเฉลี่ยแล้วจะยังไม่ดี
สำหรับเรื่องของการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI)
ในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่แล้วพบว่า ประเทศไทยมีการลงทุนจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นประมาณ 50% เมื่อเทียบกับปี 2017 โดยการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์, เคมีภัณฑ์, อาหาร และยานยนต์
หลังจากที่เราดูภาพรวมของประเทศไทยกันไปแล้ว
ทีนี้มาดูถึงปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยกันบ้าง
สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา
ผลกระทบของสงครามการค้าต่อประเทศไทยสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 แบบคือ
แบบที่หนึ่ง ธุรกิจที่อยู่ในซัพพลายเชนของจีน โดยจีนนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งวัตถุดิบจากไทยไปประกอบเพื่อส่งออกไปสหรัฐอเมริกา เมื่อจีนส่งออกไปไม่ได้ สินค้าเหล่านี้ก็จะมีความต้องการน้อยลง
แบบที่สอง สินค้าทดแทน กรณีสหรัฐอเมริกาไม่นำเข้าสินค้าจากจีนก็จะนำเข้าจากแหล่งอื่นทดแทน
ซึ่งประโยชน์ก็จะตกกับประเทศผู้ส่งออกรวมถึงไทยที่จะได้รับประโยชน์มากขึ้นด้วย
แม้ว่าจะมีทั้งได้ประโยชน์และเสียประโยชน์
แต่สุดท้ายแล้วดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบในด้านลบกับประเทศไทยมากกว่า
อย่างไรก็ตาม การส่งออกของประเทศไทยไปยังอาเซียน และอินเดียก็ยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่อง
ซึ่งคาดว่าน่าจะพอชดเชยผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่าง จีนและสหรัฐอเมริกาได้
นอกจากเรื่องของสงครามการค้าแล้ว
สิ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดในขณะนี้ก็คือกระแส “ทรานส์ฟอร์เมชั่น”
จากการที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดธุรกิจแบบใหม่ที่เข้ามาแทนที่ธุรกิจเดิม
ส่งผลให้บริษัทจำนวนมากพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก่อนที่ธุรกิจจะต้องล้มหายไป
หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า ทรานส์ฟอร์เมชั่น นั่นเอง
สำหรับในประเทศไทยแล้ว การทรานส์ฟอร์เมชั่นยังเกิดขึ้นแค่บางอุตสาหกรรม
เรื่องนี้จึงกลายเป็นปัญหาสำคัญ
เพราะไม่มีใครรู้ว่าอีก 30 ปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และธุรกิจจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน
จากปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้เองทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่า
เศรษฐกิจโลกตอนนี้อยู่ในช่วงไหนกันแน่ แล้วจะเกิดวิกฤตหรือไม่?
เจพี มอร์แกน ได้ให้ความเห็นว่าเราอาจจะกำลังอยู่ในช่วงปลายวัฏจักรเศรษฐกิจ
จีนเริ่มมีการเติบโตที่ชะลอตัวลงจากแต่ก่อนที่เติบโต 7% มาตลอดกลับลดลงมาเหลือ 6%
ในขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกากำลังชะลอตัวลง
สำหรับคำแนะนำในการลงทุน เจพี มอร์แกนบอกว่า สินทรัพย์ปลอดภัยมีความน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาล
นอกจากนี้ ควรกระจายความเสี่ยงในสัดส่วนที่เหมาะสมไปในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ เช่น หุ้นสหรัฐอเมริกา และ หุ้นในตลาดเกิดใหม่ ส่วนหุ้นกู้ เน้นไปที่ High Yield Bonds อายุ 6-9 เดือน
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเราจะเห็นว่างานสัมมนา KRUNGSRI EXCLUSIVE Economic and Investment Outlook 2019 ได้ให้มุมมองทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์กับเรามากเลยทีเดียว
แล้วเราจะเข้าร่วมงานสัมมนานี้ได้อย่างไร?
สำหรับ “KRUNGSRI EXCLUSIVE Economic and Investment Outlook 2019” ได้จัดขึ้นสำหรับลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟเท่านั้น เพื่อแนะนำการลงทุน และบริหารพอร์ตอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
พร้อมแนวโน้มสำหรับการเตรียมความพร้อมในสถานการณ์เศรษฐกิจของโลก และของไทยในปัจจุบัน
ด้วยความเป็นผู้นำในด้าน Advisory Expertise
โดยสิทธิประโยชน์นี้เป็นเพียงแค่หนึ่งในเอกสิทธิ์ความพิเศษอีกมากมาย เพื่อลูกค้า กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ เท่านั้น..
สนใจบริการ กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ โทร. 0 2296 5566 จันทร์-ศุกร์ 8.30-17.30 น. LINE: @krungsriexclusive
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.