ชายผู้ช่วยไม่ให้เกิด สงครามโลกครั้งที่ 3

ชายผู้ช่วยไม่ให้เกิด สงครามโลกครั้งที่ 3

21 ธ.ค. 2018
ชายผู้ช่วยไม่ให้เกิด สงครามโลกครั้งที่ 3 / โดย ลงทุนแมน
หลายคนอาจจะรู้จักกับชื่อของ Adolf Hitler ผู้จุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ 2
หรือแม้แต่ Albert Einstein ผู้คิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพ
ซึ่งต่อมาได้ถูกนำไปพัฒนาเป็นพลังงานปรมาณู
แต่พอพูดถึง Stanislav Petrov ชื่อนี้หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูเท่าไร
แต่นี่คือ ชายผู้ช่วยโลกไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3
แล้วเขาคือใคร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Stanislav Petrov คือ อดีตนายทหารในกองทัพอากาศของสหภาพโซเวียต เกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน 1939 หรือไม่กี่วันหลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น
เหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตเขานั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 26 กันยายน 1983
ซึ่งช่วงนั้นเป็นยุคของสงครามเย็นซึ่งเกิดจากความตึงเครียดทางการเมืองและการทหารหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ระหว่างประเทศกลุ่มตะวันตกซึ่งนำโดยสหรัฐอเมริกา และประเทศกลุ่มตะวันออกซึ่งนำโดยสหภาพโซเวียต
ซึ่งขณะนั้น Stanislav Petrov ทำงานเป็นหัวหน้าศูนย์ควบคุมการเตือนภัยสงครามนิวเคลียร์
แต่แล้วสิ่งที่ทุกคนในศูนย์ควบคุมการเตือนภัยไม่คาดคิดดันเกิดขึ้น นั่นคือ เสียงเตือนภัยว่ากำลังมีวัตถุต้องสงสัยคล้ายขีปนาวุธกำลังพุ่งตรงมาที่สหภาพโซเวียต
แน่นอนว่าทุกสายตาของผู้ใต้บังคับบัญชากำลังจับจ้องมาที่เขา ว่าจะให้ทุกคนต้องทำอย่างไร
Stanislav Petrov ได้ออกคำสั่งให้ทุกคนในที่นั้นตรวจสอบข้อมูลดูให้ละเอียดอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันไร ก็มีเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นอีก และครั้งนี้บ่งชี้ว่ามีวัตถุคล้ายขีปนาวุธกำลังพุ่งตรงมาที่สหภาพโซเวียตอีก 4 ลูก
เมื่อเป็นแบบนี้ ความโกลาหลและความตึงเครียดในศูนย์ควบคุมการเตือนภัยยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ในตอนนี้ Stanislav Petrov มีเวลาตัดสินใจเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น ซึ่งเป็น 10 นาทีที่อาจจะตัดสินชีวิตของคนในประเทศหลายล้านคน และแน่นอน รวมทั้งตัวเขาด้วย..
ตามหลักแล้ว เมื่อหัวหน้าศูนย์ควบคุมการเตือนภัยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ จะต้องรีบรายงานเหตุการณ์ให้แก่ผู้บังคับบัญชาของเขาในทันที ซึ่งรายงานนี้ก็จะถูกส่งต่อไปยังผู้นำประเทศเพื่อที่จะสั่งการให้ยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์โจมตีสหรัฐอเมริกาเพื่อตอบโต้
แต่แล้ว เขาตัดสินใจไม่รายงาน เพราะเขาคิดว่า ถ้าสหรัฐอเมริกาจะยิงขีปนาวุธมาที่สหภาพโซเวียตคงไม่ได้ยิงมาจำนวนแค่นั้น
และสุดท้ายแล้ว การตัดสินใจของเขาก็ถูก เพราะเสียงเตือนภัยที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากระบบตรวจสอบในศูนย์ควบคุม ทำงานผิดพลาด
ถ้าวันนั้นเขาตัดสินใจรายงานผู้บังคับบัญชาไป โดยไม่ได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ก็อาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่า จะเกิดความเสียหายมากมายแค่ไหน
แม้วันนี้ Stanislav Petrov จะจากโลกนี้ไปแล้วเมื่อปี 2017 ในวัย 77 ปี แต่การตัดสินใจที่รอบคอบและมีสติของเขา ภายใต้สถานการณ์ที่กดดันในวันนั้น ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่เปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ของโลก จนเรื่องราวของเขามีการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และสารคดีในหลายประเทศด้วย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ รู้ไหมว่า
สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เกิดขึ้นระหว่างปี 1914 - 1918 นั้น ผลของสงครามทำให้ มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดถึง 9.9 ล้านคน
และงบประมาณที่ใช้ในการทำสงครามทั้งหมดอยู่ที่ 6.9 ล้านล้านบาท ซึ่งถ้าคิดเป็นเงินในสมัยนี้จะเท่ากับ 112 ล้านล้านบาท
ขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเกิดระหว่างปี 1939 - 1945 แต่ผลของสงครามในครั้งนี้ รุนแรงกว่าครั้งที่ 1 มาก เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตรวมกันทั้งหมดกว่า 73 ล้านคน
และงบประมาณที่ใช้ในการทำสงครามรวมกันกว่า 35.6 ล้านล้านบาท ในสมัยนั้น หรือคิดเป็นเงินในสมัยนี้เท่ากับ 449 ล้านล้านบาท
สรุปแล้ว เงินที่ใช้ไปในการทำสงครามทั้ง 2 ครั้ง คิดเป็นเงินในสมัยนี้กว่า 561 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว
ขณะที่ในปี 2017 ประเทศในโลกทั้งหมดนั้น ใช้งบประมาณในด้านการทหารและป้องกันประเทศรวมกันกว่า 57 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 2% ของ GDP ของโลกที่ 2,800 ล้านล้านบาท
โดยประเทศที่มีงบประมาณส่วนนี้มากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา
ถ้าให้งบประมาณในด้านการทหารและป้องกันประเทศทั้งหมดในโลกนี้ มี 100 บาท
สหรัฐอเมริกาจะมีสัดส่วนมากถึง 35 บาท..
----------------------
Stanislav Petrov ช่วยไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ส่วน เซอร์ จอห์น เทมเพิลตัน กล้าซื้อหุ้นในวันแรกที่เกิดสงครามโลก อ่านบทความเต็มได้ที่
https://www.blockdit.com/articles/5b30b170076e65512a6872bd
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.