ต่างชาติ มีผลกับตลาดหุ้นไทย มากน้อยแค่ไหน?

ต่างชาติ มีผลกับตลาดหุ้นไทย มากน้อยแค่ไหน?

6 ธ.ค. 2018
ต่างชาติ มีผลกับตลาดหุ้นไทย มากน้อยแค่ไหน? / โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีมูลค่ารวมกันทั้งหมดเพียง 0.5% ของมูลค่าตลาดหุ้นทั่วโลก และเป็นเพียง 62% ใน Market cap ของหุ้น Apple ที่อยู่ที่ 26.9 ล้านล้านบาท
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงไม่แปลกที่ในสายตาของนักลงทุนต่างชาตินั้นจะเห็นตลาดหุ้นไทยเปรียบเสมือนบริษัทหนึ่งเท่านั้น
ขณะที่หลายคนเชื่อว่า นักลงทุนต่างชาติค่อนข้างมีอิทธิพลกับตลาดหุ้นไทย
เรื่องนี้จริงหรือไม่ ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ปัจจุบัน Market cap ของตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 3,300 ล้านล้านบาท ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 3 ลำดับแรกคือ
1.ตลาดหุ้น New York (NYSE) มี Market cap 799.3 ล้านล้านบาท
2.ตลาดหุ้น NASDAQ มี Market cap 391.4 ล้านล้านบาท
3.ตลาดหุ้น Japan Exchange Group (JPX) มี Market cap 207.5 ล้านล้านบาท
แล้วถ้าเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลกนั้น ตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างไร..
ปัจจุบัน มูลค่า Market cap. ของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 16.6 ล้านล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเพียง 0.5% ของ Market cap ตลาดหุ้นทั่วโลก
ตั้งแต่ปี 1997 ถึงปี 2017 จากทั้งหมด 21 ปี นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิทั้งหมด 11 ปี และขายหุ้นไทยสุทธิทั้งหมด 10 ปี
ที่น่าแปลกใจคือ ในช่วงระหว่างปี 1997 - 2007 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิไป 4 ปี มีจำนวนรวมกันเพียง 67,236 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 17,000 ล้านบาท
แต่ในช่วงระหว่างปี 2008 - 2017 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิไป 6 ปี มีจำนวนรวมกัน 578,062 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 96,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
แสดงว่านักลงทุนต่างชาติมาเริ่มขายสุทธิอย่างหนัก ในช่วงประมาณ 10 ปีหลังที่ผ่านมา
ขณะที่ในรอบ 21 ปี นั้น มี 3 ปีที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิมากกว่าแสนล้านบาท คือ
ปี 2008 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 162,346 ล้านบาท SET Index ลดลง 47.6%
ปี 2013 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 193,911 ล้านบาท SET Index ลดลง 6.7%
ปี 2015 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 154,346 ล้านบาท SET Index ลดลง 14.0%
แต่ตัวเลขขายสุทธิในปี 2013 น่าจะถูกทำลายสถิติลงในปีนี้
เพราะว่าปี 2018 นับจากต้นปีนั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิไปแล้วกว่า 284,157 ล้านบาท และ SET Index ลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 7.0%
ดังนั้น อาจจะพอบอกได้ว่า การขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติที่เป็นหลักแสนล้านบาท น่าจะมีอิทธิพลกับตลาดหุ้นไทยในระดับหนึ่ง
แต่แน่นอนว่า เมื่อนักลงทุนต่างชาติขายหุ้น ถ้าเขานำเงินออกจากประเทศไทย เงินบาทควรจะอ่อนค่าลง เนื่องจากเงินบาทที่ได้จากการขายหุ้นจะถูกนำไปแลกเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ แล้วส่งกลับไปต่างประเทศ
แล้วที่ผ่านมาเงินบาทอ่อนค่าลงหรือไม่?
ปี 2560 ค่าเงินบาทต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 32.51 บาท ขณะที่ล่าสุดค่าเงินบาทต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 32.87 บาท
จะเห็นได้ว่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยเท่านั้น นั่นก็เพราะเงินที่นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นนั้นบางส่วน อาจถูกย้ายไปสินทรัพย์อื่นในประเทศไทย เช่น ตลาดตราสารหนี้
ปี 2560 นักลงทุนต่างชาติมีมูลค่าซื้อสุทธิในตราสารหนี้ไทย 222,990 ล้านบาท
ปี 2561 (ม.ค. - ก.ย.) นักลงทุนต่างชาติมีมูลค่าซื้อสุทธิในตราสารหนี้ไทย 100,000 ล้านบาท
ดูจากข้อมูลแล้วแสดงว่านักลงทุนต่างชาติอาจยังไม่ได้ย้ายเงินจากการขายหุ้นกลับไปต่างประเทศทั้งหมด
ไม่แน่ว่าเมื่อราคาหุ้นลดลงมาจนอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เราอาจจะเห็นพวกเขาย้อนกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นอีกครั้ง
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จากเรื่องทั้งหมดนี้ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่านักลงทุนต่างชาติ มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยพอสมควร เมื่อวันใดที่เขาชอบตลาดบ้านเรา ก็สามารถผลักดันตลาดให้ขึ้นได้
แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาไม่ชอบ ก็จะทำให้ตลาดตกลงได้ เหมือนในช่วงที่ผ่านมา..
----------------------
ติดตามเรื่องหุ้นและการลงทุนอื่นๆ ได้ที่แอปพลิเคชัน "blockdit" โหลดได้ที่ blockdit.com
ความคิดดีๆ เกิดขึ้นที่บล็อกดิต..
.
หนังสือลงทุนแมนไว้อ่านยามว่าง เล่ม 1.0-7.0 ซื้อได้ที่ลิงก์นี้ lazada.co.th/shop/longtunman
.
อินสตาแกรม ไว้ดูภาพสวยๆ instagram.com/longtunman
.
ทวิตเตอร์กระชับฉับไว twitter.com/longtunman
.
ไลน์ส่งข้อความตรงวันละครั้ง line.me/R/ti/p/%40longtunman
----------------------
References
-https://www.set.or.th/set/article.do?lastId=1&language=th&country=TH&topicId=36&subtopicId=36&quantity=20&keyword=
-http://uk.businessinsider.com/global-market-cap-is-about-to-hit-100-trillion-2017-12
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_stock_exchanges
-https://www.set.or.th/th/market/market_statistics.html
-http://www.thaibma.or.th/doc/press/y2018/PressRelease_2561.pdf
-https://www.moneychannel.co.th/news_detail/23924
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.