สงคราม สมาร์ตโฟน

สงคราม สมาร์ตโฟน

15 พ.ย. 2018
สงคราม สมาร์ตโฟน / โดย ลงทุนแมน
ถ้าให้ต้นทุนผลิตของ Apple 100 บาท
Apple จะตั้งราคาขายอยู่ที่ 251 บาท
ในขณะที่ Huawei จะตั้งราคาขายอยู่ที่ 115 บาท
นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้
ไตรมาสล่าสุด Huawei ขายสมาร์ตโฟนได้มากกว่า Apple 5.1 ล้านเครื่อง
ถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อน เมื่อพูดถึงสมาร์ตโฟนของจีน
เชื่อว่าคงจะไม่มีใครอยากได้
แต่สถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนว่า
สมาร์ตโฟนของจีนกำลังกลายเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
นับว่าเป็นอีกครั้งที่ Huawei ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ตโฟนเป็นอันดับ 2 ได้สำเร็จ
หลังจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา Huawei สามารถทำยอดขายแซง Apple ที่อยู่อันดับ 2 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
แต่ดูเหมือนว่าผู้ได้รับผลกระทบจากการเสียส่วนแบ่งให้ Huawei ในครั้งนี้อาจจะไม่ใช่ Apple เสียทีเดียว
ถ้าเรามาลองดูส่วนแบ่งการตลาดในไตรมาสล่าสุด ซึ่งมียอดขายจำนวนทั้งสิ้น 355.2 ล้านเครื่อง
อันดับที่หนึ่ง Samsung มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 20.3% ลดลงจาก 22.1% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
อันดับที่สอง Huawei มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 14.6% เพิ่มขึ้นจาก 10.4% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
อันดับที่สาม Apple มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 13.2% เพิ่มขึ้นจาก 12.4% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ลำดับถัดมาอย่าง Xiaomi และ Oppo ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนจากประเทศจีน ก็มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน
แต่ในส่วนของยี่ห้ออื่นๆ พบว่า มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 33.8% ลดลงจาก 39.6% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
แสดงว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบหลักจากการเติบโตของมือถือของจีนครั้งนี้ก็น่าจะเป็น Samsung และมือถือแบรนด์อื่นๆ นั่นเอง
อย่างไรก็ตามการที่ Samsung มีส่วนแบ่งที่ลดลงอาจจะมาจากการเปิดตัวรุ่นใหม่อย่าง Samsung Galaxy S9, S9+ ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรนักในช่วงต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงการแข่งขันในเรื่องราคาเมื่อเทียบกับคู่แข่งเจ้าอื่นๆ
แล้วการตั้งราคาของสมาร์ตโฟนของแต่ละบริษัทเป็นอย่างไร
สมมติว่า สมาร์ตโฟนเรามีต้นทุนผลิตและค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวม 100 บาท
Apple จะตั้งราคาขายอยู่ที่ 251 บาท
Samsung จะตั้งราคาขายอยู่ที่ 131 บาท
Oppo, vivo และ Huawei จะตั้งราคาขายอยู่ที่ 115 บาท
Xiaomi จะตั้งราคาขายอยู่ที่ 102 บาท
เราจะเห็นว่า Samsung วางราคาของตัวเองไว้อยู่ระหว่าง Apple และสมาร์ตโฟนจากประเทศจีนเจ้าอื่นๆ
ในอดีตการตั้งราคาในลักษณะนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับ Samsung เท่าไรนัก เพราะยังไม่มีผู้เล่นจากประเทศจีน และสมาร์ตโฟนของ Samsung ก็ยังคงมีความโดดเด่นเป็นของตัวเองอย่างเช่น ในเรื่องของขนาดหน้าจอที่ใหญ่ มีลูกเล่นต่างๆ ครบครัน
แต่ตอนนี้ เราจะเห็นว่าบริษัทสมาร์ตโฟนทุกเจ้าก็ผลิตสมาร์ตโฟนออกมาได้ในลักษณะที่ไม่ได้แตกต่างกันสำหรับระบบปฏิบัติการ Android
ซึ่งแตกต่างจาก Apple ที่มีระบบ iOS ซึ่งยังคงความต่างและเอกลักษณ์ของตัวเองได้อยู่
ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ส่งผลให้ Samsung ไม่สามารถวางตำแหน่งสินค้าของตัวเองในระดับเดียวกับ Apple ที่สามารถตั้งราคาพรีเมียมได้ จึงโดนคู่แข่งจากจีนกินส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องนี้สะท้อนไปยังราคาหุ้นของ Samsung ปรับตัวลดลง 22% ในระยะเวลา 1 ปีทีผ่านมา
ถึงแม้ว่า Samsung จะดูสถานการณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่บริษัทก็ยังคงครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่ง
ส่วนที่น่าจะเป็นห่วงกว่าก็คงเป็น ผู้เล่นเจ้าอื่นๆ ที่โดนแบรนด์ใหญ่ 5 อันดับแรกแย่งตลาด
ไม่เพียงแต่การแข่งขันที่รุนแรงเท่านั้น ภาพรวมของอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนเองก็ดูไม่ค่อยสดใสเท่าไรนัก
ยอดขายสมาร์ตโฟนของไตรมาสนี้อยู่ที่ 355.2 ล้านเครื่อง ลดลง 22.6 ล้านเครื่องและลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 6%
เพราะอะไรยอดขายของสมาร์ตโฟนถึงลดลง?
โดยปกติแล้วผู้ใช้ 1 คน น่าจะพกสมาร์ตโฟนไม่เกินคนละ 1 เครื่อง
แล้วทุกวันนี้เราเปลี่ยนสมาร์ตโฟนบ่อยขนาดไหน?
จากคำถามนี้เองน่าจะทำให้หลายคนเห็นภาพมากขึ้น
มีการศึกษาพบว่า คนอเมริกันมีพฤติกรรมที่จะเปลี่ยนสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ทุกๆ 22 เดือนหรือประมาณเกือบ 2 ปี
แต่ถ้าดูในมุมของการใช้งานพบว่า อายุของการใช้งานเฉลี่ยของสมาร์ตโฟนจะอยู่ที่ประมาณเกือบ 5 ปี
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ กลายเป็นข้อจำกัดในการเติบโตของอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน
สุดท้ายแล้ว คู่แข่งคนสำคัญของธุรกิจสมาร์ตโฟนอาจจะไม่ใช่การแข่งขันระหว่างบริษัทเพียงอย่างเดียว
แต่เรื่องนี้กลับโยงไปถึงพฤติกรรมของลูกค้า ว่าจะเปลี่ยนสมาร์ตโฟนบ่อยแค่ไหน
เพราะถ้ายังมีลูกเล่นคล้ายๆ เดิม เข้าไลน์ เฟซบุ๊ก กูเกิล ได้เหมือนกัน
ในขณะที่เครื่องมีความทนทานมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน
ลูกค้าก็อาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อสมาร์ตโฟนเครื่องใหม่อีกต่อไป..
----------------------
ติดตามเรื่องน่ารู้อื่นๆ ได้ที่แอปพลิเคชัน "blockdit" โหลดได้ที่ blockdit.com
ความคิดดีๆ เกิดขึ้นที่บล็อกดิต..
.
หนังสือลงทุนแมนไว้อ่านยามว่าง เล่ม 1.0-7.0 ซื้อได้ที่ลิงก์นี้ lazada.co.th/shop/longtunman
.
อินสตาแกรม ไว้ดูภาพสวยๆ instagram.com/longtunman
.
ทวิตเตอร์กระชับฉับไว twitter.com/longtunman
.
ไลน์ส่งข้อความตรงวันละครั้ง line.me/R/ti/p/%40longtunman
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.