กรณีศึกษา ความล้มเหลวของ Google+

กรณีศึกษา ความล้มเหลวของ Google+

5 พ.ย. 2018
กรณีศึกษา ความล้มเหลวของ Google+ / โดย ลงทุนแมน
Google หนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
และเป็นผู้ครอบครองผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ในหลายๆ ด้าน
แต่รู้หรือไม่ว่า มีอยู่อย่างหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นความล้มเหลวของ Google
สิ่งนั้นคือ Google+ แพลตฟอร์ม Social Network ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Facebook
แต่สุดท้าย Google+ สู้ไม่ได้ และกำลังจะปิดตัวลงไปในที่สุด
เรื่องราวนี้น่าสนใจอย่างไร? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

Google มีผลิตภัณฑ์และบริการที่เราคุ้นเคยกันอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ Google, YouTube, Google Chrome, Google Map, Gmail, ระบบปฏิบัติการ Android เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ล้วนมีผู้ใช้สูงเกินกว่า 1,000 ล้านคนทั้งสิ้น
จนวันหนึ่ง Google ได้ตัดสินใจ ที่จะเข้ามาลุยในตลาด Social Media ซึ่งในเวลานั้น Facebook ที่เป็นผู้นำตลาดกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
เดือน มิถุนายน 2011 บริษัทได้เปิดตัว Google+ (กูเกิ้ลพลัส) แพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ ที่มี Feature เด่นๆ คล้ายกับ Facebook เช่น มีการสร้างหน้าโปรไฟล์, อัปเดต Status ชีวิต, โพสต์รูป, กลุ่มเพื่อนเรียกว่า Circles, ปุ่ม +1 ถ้าถูกใจโพสต์ และ การ Video Call ที่เรียกว่า Hangouts เป็นต้น
ทั้งนี้มีรายงานว่า มีการใช้เงินลงทุนสร้าง Google+ ไปราว 19,500 ล้านบาท
ในช่วงแรก Google+ มีการเติบโตที่ดี เพราะการสมัครสมาชิกนั้นค่อนข้างง่าย หากใครมีบัญชีผลิตภัณฑ์อื่น เช่น Gmail ก็สามารถสร้างบัญชี Google+ ได้ด้วยการกดไม่กี่ครั้ง ถึงขนาดที่บางคนมีบัญชี Google+ โดยตัวเองยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ
ซึ่งแม้แต่ Facebook เองก็มอง Google+ ว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว และเร่งพัฒนาบริการต่างๆ ไม่ให้แพ้ Google+
แล้วหลังเปิดให้ใช้งานในปี 2011 จำนวนผู้ใช้งานของ Google+ เป็นอย่างไร?
เพื่อให้เห็นภาพจะยกตัวอย่าง บัญชีที่มีความเคลื่อนไหว (Active Users) ของ Google+ เทียบกับ Facebook
ปี 2011 Google+ 90 ล้านบัญชี Facebook 845 ล้านบัญชี
ปี 2013 Google+ 300 ล้านบัญชี Facebook 1,228 ล้านบัญชี
ปี 2015 Google+ 111 ล้านบัญชี Facebook 1,591 ล้านบัญชี
จะเห็นได้ว่า เมื่อเปิดตัว มีคนใช้ Google+ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก แต่ไม่นานปรากฏว่า ยอดคนใช้กลับลดลงมาอยู่ระดับเดียวกับตอนเปิดตัวในปีแรก ขณะที่ผู้นำอย่าง Facebook กลับมีคนเล่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ทำไม Google+ จึงล้มเหลว?
ถ้าบอกว่า Google+ เข้ามาในตลาดช้าไป ก็คงจะไม่ผิด เพราะเปิดตัวช้ากว่า Facebook ไปถึง 7 ปี ซึ่งตอนนั้นได้สร้างฐานลูกค้าไว้แล้วถึง 845 ล้านบัญชี
และที่สำคัญ Features ของ Google+ แทบไม่แตกต่างอะไรจาก Facebook และไม่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองมากพอ ผู้ใช้จึงไม่เห็นประโยชน์ว่า ทำไมต้องเลิกกด Like ใน Facebook และหันมากดปุ่ม +1 ใน Google+ แทน
นอกจากนี้ บริการเด่นอย่าง Hangouts ในสมัยนั้นก็มีโปรแกรม Skype ที่คนส่วนใหญ่ใช้กันอยู่แล้วอีกด้วย
ซึ่งมันสะท้อนออกมาในข้อมูลสถิติที่ว่า เฉลี่ยแล้ว คนจะเล่น Facebook ราว 58 นาทีต่อวัน ขณะที่ 90% ของคนที่เล่น Google+ จะเข้ามาใช้บริการแค่ 5 วินาทีต่อวัน หรือเปิดเข้ามาแล้วปิดทันทีนั่นเอง
และล่าสุด มีการพบว่า ระบบมีข้อบกพร่อง จนข้อมูลผู้ใช้รั่วไหลไปกว่า 500,000 บัญชี นั่นก็ทำให้ภาพของ Google+ ที่แทบไม่มีคนใช้อยู่แล้ว ยิ่งแย่ลงไปอีก
สุดท้าย Google ตัดสินใจยอมแพ้ และประกาศเตรียมปิด Google+ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ลงภายในเดือน สิงหาคม ปี 2019 แต่จะยังให้บริการกลุ่มลูกค้าองค์กรต่อไป

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ Google+ นี้ ไม่ได้แปลว่า Social Media รายอื่น จะไม่สามารถยืนอยู่ในตลาดได้
ในโลกนี้ยังมีโปรแกรม Social Media อีกมากมาย ที่ขาย Feature ที่ต่างออกไป แม้ยอดผู้ใช้อาจจะน้อยกว่า Google+ ในตอนแรก แต่ก็มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต เช่น
Instagram เน้นด้านการแชร์รูปภาพ วิดีโอ
Snapchat เน้นการแช็ต และ แชร์วิดีโอสั้น
Twitter เน้นด้านความเร็วในการสื่อสาร
Pinterest เน้นด้านไอเดีย รูปภาพที่เราสนใจ
TikTok เน้นด้านวิดีโอประกอบเพลง
เรื่องนี้อาจทำให้เราได้เห็นว่า
การเป็นผู้เล่นรายใหญ่ก็ไม่ใช่จะประสบความสำเร็จไปทุกเรื่อง
ถ้าเราไม่สามารถทำตัวเราให้โดดเด่นมากพอ ลูกค้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเปลี่ยนมาใช้สินค้าของเรา
เรื่องนี้จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเรามีเงินมากแค่ไหน
แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถสร้างความแตกต่างได้มากแค่ไหน
ในโลกของธุรกิจสมัยใหม่
ต่อให้เราเป็นผู้เล่นรายเล็ก ถ้าเราหาตัวตนได้ชัด ก็จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ในวันที่เจ้าของ Instagram ขายให้เฟซบุ๊กในราคา 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Instagram มีพนักงานทั้งบริษัทรวมกัน 13 คน..
----------------------
ติดตามเรื่องราวของบริษัทชั้นนำอื่นๆ ได้ที่แอปพลิเคชัน "blockdit" โหลดได้ที่ blockdit.com
ความคิดดีๆ เกิดขึ้นที่บล็อกดิต..
.
หนังสือลงทุนแมนไว้อ่านยามว่าง เล่ม 1.0-7.0 ซื้อได้ที่ลิงก์นี้ lazada.co.th/shop/longtunman
.
อินสตาแกรม ไว้ดูภาพสวยๆ instagram.com/longtunman
.
ทวิตเตอร์กระชับฉับไว twitter.com/longtunman
.
ไลน์ส่งข้อความตรงวันละครั้ง line.me/R/ti/p/%40longtunman
----------------------
Tag: Google
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.