10 ปีของเรา 150,000 ปีของมนุษย์

10 ปีของเรา 150,000 ปีของมนุษย์

24 ต.ค. 2018
10 ปีของเรา 150,000 ปีของมนุษย์ / โดย ลงทุนแมน
“การเปลี่ยนแปลงของมนุษย์เราใน 150,000 ปีที่ผ่านมา เทียบไม่ได้เลยกับการเปลี่ยนแปลงใน 10 ปีล่าสุด” - คุณธนา เธียรอัจฉริยะ ได้กล่าวคำพูดนี้ไว้
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเราอาจจะตกใจว่า
เราคนไทย ยกมือถือขึ้นดู ในแต่ละวัน มากถึง 400 ครั้ง
ถ้าถามว่าใน 150,000 ปีที่ผ่านมา มนุษย์ทำอะไรซ้ำๆ กันมากสุด
10 ปีก่อนหน้านี้ คำตอบที่ได้อาจจะเป็น กินข้าว แปรงฟัน ขับรถ
แต่ในยุคสมัยนี้ คำตอบที่ได้ของทุกคนจะเป็นเหมือนกัน
ก็คือ “ใช้โทรศัพท์มือถือ” หรือ ที่เราเรียกกันว่า สมาร์ตโฟน
ซึ่งเรื่องนี้บ่งชี้ว่า พฤติกรรมของมนุษย์เรา กำลังจะเปลี่ยนไป..
โดยสิ่งแรกที่จะเปลี่ยนก็คือ เริ่มจากเด็ก
เด็กในวันนี้ จะเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า
แต่สิ่งสำคัญคือ เด็กในวันนี้ จะเติบโตขึ้นมาโดยไม่เหมือนกับ เด็กในวันก่อน อย่างสิ้นเชิง
แล้วพฤติกรรมมนุษย์จะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง?
1.มนุษย์จะต้องการของทุกอย่างในทันที อยากรู้อะไรจะได้รู้ทันที อยากซื้ออะไรจะได้ซื้อทันที
2.มนุษย์จะมีตัวเลือกมากขึ้น เราจะมีข้อมูลเรื่องเดียวกันเป็นร้อยแบบ สินค้าประเภทเดียวกันเป็นร้อยชิ้นให้เลือก
3.มนุษย์จะเริ่มสับสนมากขึ้น เพราะเมื่อมีตัวเลือกมาก เราย่อมไม่รู้ว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ควรจะเชื่อ
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คือ เราจะเริ่มเห็นดราม่า ข่าวปลอม ในโลกโซเชียลมากขึ้น สุดท้ายแล้วมนุษย์จะต้องอยู่ในโลกที่สับสนวุ่นวายนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
และสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้อาจส่งผลกระทบกับทุกอุตสาหกรรม ซึ่งทุกคนต้องเตรียมตัวรับมือ
ใครเตรียมรับมือไม่ทัน ก็แพ้ไป หายไป..
และในวงการที่จะถูกกระทบเป็นอันดับต้นๆ ก็คือ วงการธนาคาร
กระปุกออมสิน จะเป็นเหมือนของหายาก เพราะในวันข้างหน้าจะไม่มีเศษเหรียญให้เราใช้อีกต่อไป
การขอสินเชื่อบ้านในอนาคตอาจเปลี่ยนรูปแบบเป็น P2P Lending
ต่อไปเราอาจจะต้องปรึกษาการลงทุนกับ robot แทนที่จะเป็นมนุษย์
และกว่าที่เราจะรู้ตัว เราก็อาจจะจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เราต้องไปธนาคารคือวันไหน? เพราะทุกอย่างจะอยู่ในหน้าจอที่เราจะยกขึ้นมากเมื่อไหร่ก็ได้ นั่นก็คือ โทรศัพท์มือถือ..
แล้วธนาคารในอนาคต จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร?
แน่นอนว่าธนาคารที่อยู่ในรูปแบบ Physical ที่เป็นที่ตั้งสาขาจะน้อยลงเรื่อยๆ
พนักงานในธนาคารที่นับเหรียญ นับธนบัตร จะเป็นสิ่งแรกที่หายไป
และตู้ ATM จะเป็นสิ่งประดิษฐ์ในพิพิธภัณฑ์ เพราะในอนาคตมนุษย์ไม่จำเป็นต้องไปกดตู้ ATM
ในประวัติศาสตร์ 150,000 ปีของมนุษย์ เราเพิ่งมีเหรียญ มีธนบัตรก็ในช่วงพันปีหลังสุด
ก็คงไม่แปลกอะไรถ้าจะบอกว่าของเหล่านี้ได้ทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์ในช่วงที่ผ่านมา แต่ตอนนี้เหรียญ และ ธนบัตรใกล้จะถึงอายุขัยของมันแล้ว
เพราะช่วงเวลาต่อจากนี้จะมีสิ่งที่ดีกว่าในการแลกเปลี่ยนเงิน ซึ่งนั่นก็คือ แลกเปลี่ยนเงินกันทางอิเล็กทรอนิกส์..
สรุปแล้วสิ่งที่เป็นผลิตภัณฑ์การเงินเดิมๆ กำลังจะเปลี่ยนไป
แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าทุกอย่างหายไป?
จริงๆ แล้ว สิ่งที่จะมาทดแทนของเก่าที่หลายคนอาจนึกไม่ถึง ก็คือ ประสบการณ์ หรือ “Moment”
ประสบการณ์แต่ละทุกจังหวะชีวิตของเรา จะกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และทำให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่
ใครจับประสบการณ์ของแต่ละคนได้ คนนั้นคือ ผู้ชนะ..
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราจับได้ว่า คนนั้นต้องการชอปปิง เรานำเสนอส่วนลดโฆษณาให้เขา เราก็จะได้รางวัลคือธุรกรรมที่เกิดขึ้น
ถ้าเราจับได้ว่า คนนั้นอยากขยายกิจการ ต้องการใช้วงเงินพิเศษ เรานำเสนอวงเงินสินเชื่อให้เขา เราก็จะได้รางวัลคือ การปล่อยสินเชื่อ
ถ้าเราจับได้ว่า คนนั้นกำลังจะเดินทาง ต้องการประกันอุบัติเหตุในการเดินทาง เราก็จะได้รางวัลคือ การขายประกัน
ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในจังหวะชีวิตของมนุษย์
ซึ่งก็สอดคล้องกับ คุณธนา เธียรอัจฉริยะ ซึ่งเป็นผู้บริหารของ SCB ที่เล็งเห็นถึงเรื่องนี้ และได้กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ต้องปรับตัวเองให้เป็น Moment Banking..
เพราะจริงๆ แล้ว ธนาคารก็ยังจำเป็นต้องมีอยู่ ซึ่งไม่ใช่ในรูปแบบเดิม แต่จะกลายเป็นว่าจะไปแทรกอยู่ในทุกๆ ที่ของชีวิตเรา
ไม่ใช่แค่วงการธนาคาร
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าติดตามว่า ธุรกิจแต่ละอุตสาหกรรมจะปรับตัวได้เร็วอย่างไร
ใครที่ทำได้ดีกว่า คนนั้นก็น่าจะเป็นผู้ชนะ
เวลานี้เป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อใน 150,000 ปีของมนุษยชาติ
ซึ่งเราอาจยังไม่ทันได้สังเกตว่าเรื่องนี้มันได้เกิดขึ้นมา 10 ปีแล้ว
แต่ถ้าถามว่าอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่านั้น
คำตอบก็คือ 10 ปีข้างหน้า..
โลกเราจะเป็นอย่างไร
ลูกหลานเราจะเติบโตขึ้นมาในรูปแบบไหน
ลูกหลานเราจำเป็นต้องเข้าโรงเรียนหรือไม่ ในเวลาที่ทุกอย่างสามารถรู้ได้ทันทีจากการกดปุ่มค้นหา
ลูกหลานเราจะต้องเรียนรู้อะไรในโลกที่มีหุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทนเราในเกือบทุกเรื่อง
ลูกหลานเราจะต้องทำธุรกิจอะไรในวันที่ธุรกิจเดิมๆ หายไปอย่างรวดเร็ว
เรื่องนี้คงไม่มีใครรู้ว่าลูกหลานเราจะดีกว่าเดิม หรือ แย่กว่าเดิม
แต่ที่รู้คือ
ลูกหลานของเรา จะมี “ความเป็นมนุษย์” ที่แตกต่างจากเรา อย่างสิ้นเชิง
ซึ่งไม่ต่างอะไรจากความเป็นมนุษย์ของ “เรา” กับ มนุษย์โบราณเมื่อ 150,000 ปีที่แล้ว
อาจจะไม่เหมือนกันตรงที่
เวลา 150,000 ปี มันถูกย่นย่อมาเหลือ 10 ปี
ก็เท่านั้นเอง..
----------------------
ติดตามเรื่องน่ารู้อื่นๆ ได้ที่แอปพลิเคชัน "blockdit" โหลดได้ที่ blockdit.com
ความคิดดีๆ เกิดขึ้นที่บล็อกดิต..
.
หนังสือลงทุนแมนไว้อ่านยามว่าง เล่ม 1.0-7.0 ซื้อได้ที่ลิงก์นี้ lazada.co.th/shop/longtunman
.
อินสตาแกรม ไว้ดูภาพสวยๆ instagram.com/longtunman
.
ทวิตเตอร์กระชับฉับไว twitter.com/longtunman
.
ไลน์ส่งข้อความตรงวันละครั้ง line.me/R/ti/p/%40longtunman
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.