ผู้สนับสนุน.. โอกาสการลงทุนใน ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์

ผู้สนับสนุน.. โอกาสการลงทุนใน ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์

4 ต.ค. 2018
ผู้สนับสนุน..
โอกาสการลงทุนใน ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ / โดย ลงทุนแมน
เราจะได้มีโอกาสลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย
ซึ่งกองทุนรวมนี้เป็นที่จับตามองของนักลงทุนทั้งในไทยและต่างชาติ
กองทุนรวมนี้มีความน่าสนใจอย่างไร
เราลองมาศึกษาพร้อมๆ กัน
“กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ Thailand Future Fund (TFFIF)”
เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่จะเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก และจดทะเบียนหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทำไมถึงต้องระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน?
เพราะการระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยลดภาระทางการคลังของรัฐบาล ลดการพึ่งพาการกู้ยืมเงินในการพัฒนาประเทศไทย ซึ่งการกู้ยืมเงินเหล่านี้นับเป็นหนี้สาธารณะ
และการจัดตั้งกองทุนรวมดังกล่าวยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนประเภทต่างๆ ทั้งประชาชนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน ได้มีส่วนร่วมในการลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพของประเทศไทย
แล้วคำว่า “โครงสร้างพื้นฐาน” หมายถึงอะไรบ้าง?
“โครงสร้างพื้นฐาน” หมายถึง สิ่งที่จำเป็นในการวางรากฐานกับประเทศเพื่อให้ประชาชนมีความสะดวกสบายขึ้นในอนาคต และการคมนาคมก็เป็นหนึ่งในนั้น
ซึ่ง TFFIF จะเข้าลงทุนครั้งแรกในสิทธิในการรับรายได้ร้อยละ 45 ของรายได้ค่าผ่านทางรวมสุทธิที่จัดเก็บได้จากเส้นทางในปัจจุบันของทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษบูรพาวิถี ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ระยะทางรวมกัน 83.2 กิโลเมตร เป็นระยะเวลา 30 ปี
เส้นทางพิเศษ 2 สายนี้ ได้แก่
1.ทางพิเศษฉลองรัช ระยะทาง 28.2 กิโลเมตร ที่เชื่อมต่อถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออกบริเวณจตุโชติ เข้ากับทางพิเศษเฉลิมมหานครบริเวณอาจณรงค์ และทางพิเศษบางนา – อาจณรงค์
2.ทางพิเศษบูรพาวิถี ระยะทาง 55.0 กิโลเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในทางยกระดับที่มีการจัดเก็บค่าผ่านทางที่มีระยะทางยาวที่สุดในประเทศไทย โดยมีจุดเริ่มต้นจากปลายทางพิเศษเฉลิมมหานครบริเวณบางนาไปทางทิศตะวันออกข้ามแม่น้ำบางปะกง สิ้นสุดที่จังหวัดชลบุรี
ซึ่งทั้ง 2 ทางพิเศษนี้ กทพ. ยังเป็นผู้บริหารจัดการตามปกติ (Day-to-Day Management) และยังเป็นผู้บำรุงรักษาทางพิเศษ ด้วยค่าใช้จ่ายของ กทพ. เอง อีกด้วย
แล้ววัตถุประสงค์ของ TFFIF คืออะไร?
TFFIF มีนโยบายในการลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ซึ่งมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนเพื่อเป็นรายได้ให้แก่กองทุนรวม และทำให้ TFFIF สามารถจ่ายผลตอบแทนจากการลงทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ
โดยปัจจุบัน TFFIF ได้มีการจัดตั้งแล้ว โดยมีเงินทุนเริ่มแรกจำนวน 1,000 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหน่วยทั้งหมด ทั้งนี้ จำนวนเงินเบื้องต้นที่คาดว่าจะได้รับจากการเสนอขายส่วนเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 40,000 - 44,700 ล้านบาท
ส่วนเงินที่ กทพ. ได้รับจากการโอนสิทธิในรายได้ของทางพิเศษฉลองรัชและทางพิเศษบูรพาวิถีนั้น กทพ. จะนำไปใช้ลงทุนพัฒนาทางพิเศษ 2 โครงการ ได้แก่
1.โครงการทางพิเศษพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก
2.โครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 และ E-W Corridor ด้านตะวันออก
การลงทุนใน 2 โครงการข้างต้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรในย่านพระราม 3 และดาวคะนอง ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงโครงข่ายทางพิเศษให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
จุดเด่นของ TFFIF คืออะไร?
จุดเด่นของ TFFIF คือ เราจะได้มีโอกาสและมีส่วนร่วมในการลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่มีศักยภาพ โดยกระทรวงการคลังจะถือหน่วยลงทุนใน TFFIF เป็นสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดหลังการเพิ่มทุน เป็นระยะเวลา 5 ปี
แล้วอนาคต TFFIF จะเป็นอย่างไร?
การขยายเส้นทางการคมนาคม ถือว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานของการวางโครงสร้างให้กับประเทศ ซึ่งรัฐบาลจะมีการลงทุนด้านนี้มากขึ้นอีกในอนาคต
ดังนั้น TFFIF จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการระดมทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย
ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ของประเทศเข้ามาอยู่ในกองทุนรวมนี้มากขึ้น
และสิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาประเทศต่อไป..
หมายเหตุ: การลงทุนในหน่วยลงทุนส่วนเพิ่มทุนนี้ไม่ใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงจากการลงทุนซึ่งผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืน เต็มจำนวน จึงไม่ได้อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวน และความเสี่ยงจากการลงทุนอย่างละเอียดรอบคอบก่อนลงทุน และเมื่อมีข้อสงสัยควรสอบถามผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนให้ เข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อหน่วยลงทุน โดยควรลงทุนเมื่อเห็นว่าการลงทุนในกองทุนนี้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของตน และผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนดังกล่าวได้
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.